วินเอามือปัดฝุ่นบนก้อนหิน แล้วเอามือปัดมือ เงาสีดำบนน้ำกำลังเคลื่อนไหวอย่างช้าๆ เขานั้งลง เซียร่าเดินมานั้งลงข้างๆ เขาหันไปมองที่เธอ แต่เธอกำลังง่วนอยู่กับการแกะกล่องของขวัญ ที่มาตั้งอยู่หน้าประตูอพาทเมนต์ตั้งแต่เช้าตรู่ ไม่มีชื่อผู้ส่ง ไม่มีชื่อผู้รับ มีแต่โบว์สีฟ้าติดอยู่บนกล่องที่ห่อด้วยกระดาษสีชมพู ขนาดประมาณกล่องรองเท้า
ตอนแรกเซียร่าไม่อยากแกะ แต่วินบอกว่ามันน่าจะเป็นของที่แม่เขาส่งมาให้ แม่เขาชอบทำอะไรประหลาดๆแบบนี้เป็นประจำ อย่างเช่นเมื่อตอนสมัยประถม เธอชอบพาวินไปสวนสัตว์แล้วพาเขาไปยืนอยู่ตรงหน้ากรงสัตว์ ปิดตาเขา แล้วให้เขาทายว่ามันมีสัตว์อะไรอยู่ในนั้น ฟังแค่จากเสียง ดมแค่จากกลิ่น ตัดสินแค่จากความรู้สึก วินในสมัยนั้น จะทายถูกแค่สัตว์ที่มีกลิ่นและเสียงที่เขาคุ้นเคย เช่น ลิง หรือ ช้าง
เซียร่าแกะกระดาษห่อออกจนหมด แล้วค่อยๆบรรจงเปิดฝา วินกลืนน้ำลาย หัวใจเขาเต้นรัว เซียร่าหยิบสิ่งนึงออกมารูปร่างคล้ายกับกล่องดินสอ แต่มันยังถูกห่อไว้อีกชั้นด้วยกระดาษบางๆสีน้ำตาล เซียร่าแกะกระดาษสีน้ำตาลออก แกะกล่อง แล้วเทเอาสิ่งนั้นออกมาปรากฎเป็นก้อนกระดาษหนังสือพิมพ์ ที่ถูกขยำให้เป็นลูกกลมๆ เซียร่าคลี่กระดาษหนังสือพิมพ์ เพื่อที่จะไปเจอกับกล่องสี่เหลี่ยมขนาดเล็กเท่ากล่องไม้ขีดไฟ เซียร่าหงุดหงิด เธอรีบยื่นมันมาให้วิน
เขาหยิบมันมาจากเธอ เปิดกล่องออก แล้วเอาสิ่งที่อยู่ด้านในขึ้นมาส่องดู มันคือลูกกุญแจสีเงินธรรมดาๆ รูปร่างไม่ต่างอะไรกับกุญแจไขประตูทั่วๆไป มองในแง่ดี เขาอยากให้มันเป็นกุญแจตู้เซฟ แต่ติดที่ว่าคนให้ ที่วินเริ่มคิดว่าไม่น่าจะเป็นแม่ของเขา ไม่ได้วาดแผนที่หรือบอกข้อมูลใดๆมาเลย ถึงมันเป็นกุญแจตู้เซฟจริงๆ เขาก็ไม่รู้ว่ามันอยู่ตรงไหน และสมมุติว่าเขาบังเอิญไปเจอมันเข้าไม่วันใดก็วันหนึ่ง แล้วเขาลองไขแล้วก็เปิดมันได้ เขาก็ไม่รู้อีกว่าข้างในมันจะมีอะไรที่เขาต้องการหรือเปล่า ไม่รู้จะทำยังไง วินเก็บมันเข้ากระเป๋า
เขาหยิบมันมาจากเธอ เปิดกล่องออก แล้วเอาสิ่งที่อยู่ด้านในขึ้นมาส่องดู มันคือลูกกุญแจสีเงินธรรมดาๆ รูปร่างไม่ต่างอะไรกับกุญแจไขประตูทั่วๆไป มองในแง่ดี เขาอยากให้มันเป็นกุญแจตู้เซฟ แต่ติดที่ว่าคนให้ ที่วินเริ่มคิดว่าไม่น่าจะเป็นแม่ของเขา ไม่ได้วาดแผนที่หรือบอกข้อมูลใดๆมาเลย ถึงมันเป็นกุญแจตู้เซฟจริงๆ เขาก็ไม่รู้ว่ามันอยู่ตรงไหน และสมมุติว่าเขาบังเอิญไปเจอมันเข้าไม่วันใดก็วันหนึ่ง แล้วเขาลองไขแล้วก็เปิดมันได้ เขาก็ไม่รู้อีกว่าข้างในมันจะมีอะไรที่เขาต้องการหรือเปล่า ไม่รู้จะทำยังไง วินเก็บมันเข้ากระเป๋า
เซียร่าลุกขึ้นยืน เธอเดินออกไปตรงริมแม่น้ำ ด้วยความบังเอิญ เธอหันไปเจอผู้หญิงในชุดกระโปรงคนนั้นอีกครั้ง เพียงแต่คราวนี้เธอไม่ได้ใส่ชุดกระโปรง แต่เป็นเสื้อยืดกางเกงยีนส์ และเธอก็ไม่ได้กำลังเสก็ตภาพ แต่กำลังฟังเพลงจากไอโฟนของเธอพร้อมกับถืออะไรบางอย่างในมือ เซียร่าเดินเข้าไปใกล้ๆเพื่อจะพบว่าเธอคนนั้นกำลังนั้งกินขนมปัง ที่แห่งนี้เหมือนจะเป็นที่ประจำของเธอ ที่ๆเธอจะหลบมาอยู่เงียบๆคนเดียวเพื่อคิดอะไรบางอย่าง
แต่เซียร่าเดาเอาเอง เพราะผู้หญิงคนนั้นไม่ได้ดูเหมือนว่ากำลังคิดอยู่อะไรเลย และเธอก็ไม่ได้ดูเหมือนคนที่กำลังหิว ขนมปังในมือเธอเป็นเพียงแค่ของกันเขิน และเพลงที่เธอฟังอยู่เหมือนจะเป็นแค่สิ่งสร้างบรรยากาศ ผู้หญิงคนนั้นดูเหมือนว่ากำลังจ้องมองไปที่จุดนึงบนแม่น้ำ เซียร่าเดินเข้าไปใกล้ๆและออกปากทักทาย
" สวัสดีค่ะ " แต่ผู้หญิงในเสื้อยืดกางเกงยีนส์ไม่ตอบ เซียร่าลองเรียกอีกครั้งด้วยเสียงที่ดังขึ้น เธอเอามือดึงหูฟังออกจากหูแล้วหันมามอง
" สวัสดี " ผู้หญิงคนนั้นตอบด้วยเสียงที่นุ่มนวล เหมือนกับเสียงของเอลลา ฟิทซ์เจอรัลด์ สมัยที่ยังเป็นสาวๆ แต่มันมีความเป็นผู้ใหญ่ปนอยู่ในเสียงของเธอ เธอคนนั้นยิ้มนิดๆให้เซียร่า ด้วยรอยยิ้มที่ปิดบังบางอย่างเอาไว้
" ฉันเห็นคุณบ่อยมาก เลยแค่อยากจะมาทักทาย " เซียร่าสังเกตุไปที่ใบหน้าของผู้หญิงคนนั้น เธอรุ่นๆเดียวกัน แต่มันมีความเป็นผู้ใหญ่ในใบหน้าของเธอ ไม่มีรอยของเครื่องแต่งหน้า มีแต่ขอบตาคล้ำๆและตาใสๆที่ดูเหมือนผ่านการร้องไห้มาเป็นเวลานาน แปลกตรงที่ปากมีลิปสติกสีชมพูอ่อน ตัดกันกับใบหน้าสีขาวและผมสีดำยาวของเธอ ผู้หญิงคนนั้นดูเหมือนว่าเธอก็กำลังจ้องมองมาที่เซียร่าเพื่อสังเกตุใบหน้า
" ฉันจำคุณได้ ฉันเคยเห็นคุณครั้งนึง " เธอพูดพร้อมกับหันไปมองที่สะพาน " คุณเป็นเพื่อนกับชายที่กระโดดลงมาจากสะพานอันนั้น "
" อ่า " เซียร่าหัวเราะ เธอเหลือบไปมองวินที่นั้งอยู่บนก้อนหิน เขาดูเหมือนว่ากำลังนั้งอ่านหนังสืออยู่
" เขาชอบทำแบบนี้แหละค่ะ เขา..ชอบกิจกรรมผาดโผน "
" แล้วเขาหาเจอรึเปล่า " เธอคนนั้นถาม แต่เซียร่าไม่เข้าใจ
" ฉันเห็นเขาว่ายน้ำวนไปวนมาอยู่ครู่ใหญ่ ก่อนจะตัดสินใจว่ายเข้าฝั่ง เหมือนกับว่ากำลังตามหาอะไรบางอย่าง บางอย่างที่สำคัญมาก " ถึงจุดนี้ เซียร่าหยุดคิด
" เจอค่ะ มันเป็นแค่ใบปลิวร้านหนังสือ อย่าถามต่อนะว่าทำไม เพราะฉันจะต้องอธิบายยาวมาก " พอเซียร่าพูดจบ เธอคนนั้นยิ้ม นี่เป็นครั้งแรกที่เซียร่าเห็นรอยยิ้มที่ช่างจริงใจ ทั้งสองคนแนะนำตัวและจับมือ ซักพักผู้หญิงคนนั้นเปิดกระเป๋าสะพาย แล้วหยิบเอาภาพเสก็ตของเธอออกมา
" เจอค่ะ มันเป็นแค่ใบปลิวร้านหนังสือ อย่าถามต่อนะว่าทำไม เพราะฉันจะต้องอธิบายยาวมาก " พอเซียร่าพูดจบ เธอคนนั้นยิ้ม นี่เป็นครั้งแรกที่เซียร่าเห็นรอยยิ้มที่ช่างจริงใจ ทั้งสองคนแนะนำตัวและจับมือ ซักพักผู้หญิงคนนั้นเปิดกระเป๋าสะพาย แล้วหยิบเอาภาพเสก็ตของเธอออกมา
" นี่ฉันให้ " เธอคนนั้นยื่นภาพของลำธารที่ถูกวาดและแรเงาด้วยดินสอมาให้เซียร่า มันเป็นภาพของลำธารที่มีเส้นสายอ่อนช้อยและพริ้วไหว ท้องฟ้าและสายน้ำถูกนำเสนอด้วยเส้นนับร้อยนับพันที่โค้งขึ้นลงไปมา ราวกับว่าทุกสิ่งตรงหน้าที่เธอเห็นทำมาจากเส้นโค้ง
" เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยน ฉันขอกิ่งไม้ของเธอ " ผู้หญิงคนนั้นมองไปที่กิ่งไม้แห้งสองอันที่เซียร่าเสียบเอาไว้ในกระเป๋าถือ เธอลังเล แต่สุดท้ายตัดสินใจหยิบมันออกมา
" เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยน ฉันขอกิ่งไม้ของเธอ " ผู้หญิงคนนั้นมองไปที่กิ่งไม้แห้งสองอันที่เซียร่าเสียบเอาไว้ในกระเป๋าถือ เธอลังเล แต่สุดท้ายตัดสินใจหยิบมันออกมา
" เนี่ยน่ะหรอคะ " เซียร่ายื่นกิ่งไม้ทั้งสองไปให้ผู้หญิงคนนั้น โดยไม่รีรอ เธอรีบรับมัน แล้วก้มลงไปเปิดกล่องใส่สีที่เธอเอาติดมาด้วย เธอหยิบเอาเทปกาวออกมา แล้วพันกิ่งไม้ทั้งสองให้มันต่อเป็นแท่งเดียวกัน พอต่อเสร็จ ผู้หญิงคนนั้นสบัดกิ่งไม้ไปมาในอากาศ ทุกครั้งที่เธอสบัดมัน ใจของเซียร่าเต้นไปตามจังหวะของการสบัด กิ่งไม้ดูเหมือนจะหลุด แต่มันไม่หลุด ไม่ว่าเสียงของการสบัดจะบาดใจเซียร่าแค่ไหน เธอกลั้นอารมณ์เอาไว้ สักพักผู้หญิงคนนั้นหยุด แล้วเดินเอากิ่งไม้ไปวางไว้บนโขดหิน เธอนั้งลงตรงที่เดิม แล้วหยิบเอาสมุดเสก็ตขึ้นมา
" มันรูปร่างน่าสนใจดี ฉันกำลังคิดอยู่ว่าอยากจะลองเสก็ตอะไรใหม่ๆดูบ้าง ขอบใจนะ เซียร่า " พอพูดจบ ทั้งสองร่ำลา เซียร่าเดินกลับมาหาวิน
พอวินเห็นเธอเดินกลับมา เขาปิดหนังสือ
พอวินเห็นเธอเดินกลับมา เขาปิดหนังสือ
" เธอไปทำไรมา นานมากเลย "
" ไปหาเพื่อนใหม่มา "
" เหรอ ตอนฉันรอเธอ ฉันก็ได้เพื่อนใหม่เหมือนกัน มีแมวบ้าที่ไหนไม่รู้ มันมาจอแจกับฉันอีกแล้ว " วินทำมือส่งสัญญาณว่ามีอะไรบางอย่างนั้งอยู่ตรงปลายเท้าเขา เซียร่าก้มลงไปมองเจอแมวสีดำตัวนึงกำลังนอนแผ่อยู่ข้างๆรองเท้าวิน มันรูปร่างคล้ายกับไอ้ตัวสีดำตัวนั้น แต่ตัวนี้รูปร่างท้วมกว่า และดูเหมือนว่าจะเชื่องกว่า
" นี่ ถ้าเราลุกแล้วมันเดินตามแกมา แกเอามันไปเลี้ยงที่ห้องเช่าก็ได้หนิ " เซียร่าพูดขึ้นพร้อมกับรอยยิ้ม วินหัวเราะนิดๆ
" ฉันจะให้มันกระโดดลงมาจากสะพาน เป็นสิ่งเดียวที่ฉันจะฝึกมัน " วินก้มลงไปมอง แต่แมวไม่สนใจ เหมือนว่ามันกำลังหลับอยู่
" ต่อจากนี้แกต้องหาเพื่อนใหม่ที่เป็นคนบ้างนะ ที่ไม่ใช่สัตว์ "
" แน่นอน ตอนนี้ฉันมีไอเดียใหม่แล้ว เธออยากรู้ไหมว่าอะไร " วินหันไปถาม แต่เซียร่าส่ายหน้าพร้อมกับรอยยิ้ม จริงๆเธออยากจะพยักหน้า แต่ฝืนตัวเองให้ส่ายหน้า เขาไม่จำเป็นต้องบอกเธอ เธอนึกในใจ เธอรู้อยู่แล้วว่ามันจะต้องเป็นไอเดียที่ดี อย่างน้อย ก็ ดี ที่ได้ลองทำ
" เราไปกันเถอะ " เซียร่าพูด ทั้งสองคนลุกขึ้นยืนแล้วเดินออกไปตามทาง ซักพักแมวดำตัวนั้นตื่นขึ้น แต่ทั้งสองคนได้เดินห่างออกไปได้ซักพักจนเห็นแค่ข้างหลังไกลๆ แมวรีบลุกขึ้นแล้ววิ่งออกไป มันรีบวิ่งไปเพื่อให้ทันคนทั้งสอง กลิ่นที่แมวตัวนั้นได้รับจากวิน มันเป็นกลิ่นที่ดี และแมวรู้ ว่าถ้ามันตามกลิ่นนี้ไป มันจะไปเจอกับวินอีก ไม่ว่าเขาจะเดินไปไกลแค่ไหนแล้วก็ตาม
อากาศยามเช้าเต็มไปด้วยแสงแดดและสายลมที่เป็นมิตร บนท้องถนนมีรถวิ่งผ่านไปมาด้วยความเบิกบาน นกร้องและเดินจิกอาหารตามพื้นด้วยความตื่นเต้น ผู้คนที่เดินเล่นยามเช้าหัวเราะออกมาจากใจจริง แม้แต่สิ่งที่ดูเหมือนจะเป็นอันตรายอย่างเศษแก้วหรือแอ่งน้ำขัง ก็ไม่ได้ทำให้มันกลัว แต่ตรงกันข้าม มันกลับกลายเป็นความท้าทาย
No comments:
Post a Comment