12วัน 25ปี และ1568ก้าว
" เราจะเป็นแบบนี้ไปอีกนานมั้ย " อยู่ดีๆเซียร่าพูดขึ้น
สองเดือนมาแล้วที่วินไม่ได้ทำงาน จริงๆมันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรเลย เขาไม่เคยทำงานอะไรได้นานเหมือนคนอื่นๆ เขาไม่ได้เป็นคนขี้เกียจและไม่ได้เกี่ยงงาน เพียงแต่วินรู้สึกว่า การทำงานมันควรจะสนุก เมื่อไหร่ที่ทำงานแล้วไม่สนุก เขาจะลาออกเพื่อหางานใหม่ ซึ่งมันก็เป็นสิ่งที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เพราะเขาไม่ได้มีเงินเก็บมากมาย และไม่ได้มีปริญญาดีๆที่จะไปสมัครงานอะไรก็ได้ อันที่จริง เขามีแค่วุฒิมัธยมปลาย
พอจบมัธยมปลาย วินทำเต็มที่เพื่อที่จะไปเรียนต่อมหาวิทยาลัย เขาเข้าไปเรียนที่คอมมิวนิตี้คอลเลจอยู่ประมาณสองปี แต่แล้วก็ไม่จบ ไม่ได้ดีกรีอะไรกลับมาเลย ความฝันอย่างเดียวที่เขามีคือการเป็นนักเขียน แต่พอไปเรียนแล้วเขากลับรู้สึกเบื่อ ที่อาจาร์ยให้เขาทำมีแต่การให้เขียนอะไรที่เขาไม่อยากเขียน และอ่านอะไรที่เขาไม่อยากอ่าน และบวกกับการที่เขาต้องส่งตัวเองเรียน ทำให้วินต้องไปหางานทำเท่าที่พอหาได้ ทำงานในซุปเปอร์มาเก็ต เป็นพนักงานเสิร์ฟ คนล้างจาน ผู้ช่วยช่างไม้ คนขับรถส่งพิซซ่า และอีกหลายๆอย่าง พอนานๆเข้า วินไม่อยากกลับไปเรียนต่อ เขาชอบมากกว่าที่จะหาหนังสืออ่านเอาเองยามว่าง ร้านหนังสือมือสอง วินรู้สึก เป็นเหมือนวิทยาลัยที่ไม่ต้องเสียค่าเรียน
" ต้องกลับไปดูที่ห้องว่ามีอะไรขายได้อีก " วินพูด
" แล้วเอาไงต่อ " เซียร่าถาม
พอออกมา เขากดโทรศัพท์หาเซียร่า เธอรับในกริ๊งที่สาม พอเธอกดรับ เซียร่าบอกวินว่าเธอหาน้ำไวตามินรสที่เขาอยากได้ไม่เจอ แต่เธอซื้อรสที่เธอชอบมาให้แทน แล้วเธอก็สาธยายถึงอาหารเย็นวันนี้ที่ไม่รู้จะทำอะไรดี และต่อด้วยเรื่องคิวจ่ายเงินของร้านที่ทำให้เธอรอนานกว่าปกติ วินตั้งใจฟังทุกอย่างที่เซียร่ากำลังเล่า เขารออย่างใจเย็น เมื่อไหร่ที่เซียร่าเลิกบ่น เขาจะคุยกับเธอ เขาจะบอกเธอ ว่าเขาพึ่งเจอวิธี
วิน เอามือปัดฝุ่นบนก้อนหิน แล้วเอามือปัดมือ เงาสีดำบนน้ำกำลังเคลื่อนไหวอย่างช้าๆ เขานั้งลง เซียร่าเดินมานั้งลงข้างๆ เขาหันไปมองที่เธอ แต่เธอหันไปมองผู้หญิงในชุดกระโปรง ซึ่งกำลังนั้งสเก็ตช์ภาพอะไรบางอย่าง พวกเขาทั้งสามต่างใจจดจ่อกับสิ่งที่ยังไม่รู้ตัวว่าถูกจ้องมอง วินมองเซียร่า ในขณะที่เซียร่ามองผู้หญิงในชุดกระโปรง ในขณะที่ผู้หญิงในชุดกระโปรงจ้องมองแม่น้ำ ซักพักเซียร่ารู้ตัว เธอหันมาที่วินด้วยสีหน้าข้องใจ เธอทำเหมือนจะพูดอะไรบางอย่างแต่ตัดสินใจไม่พูด วินรีบยิ้ม ยักไหล่ แล้วหันไปมองทางอื่น
" เราจะเป็นแบบนี้ไปอีกนานมั้ย " อยู่ดีๆเซียร่าพูดขึ้น
" เป็นแบบนี้คือยังไง "
" ก็เป็นแบบนี้ไง นั้งอยู่เฉยๆ ไม่ทำอะไรเลย "
" เหลืออีกกี่วันอะ "
" สองอาทิตย์มั้ง " เธอเปิดกระเป๋าเพื่อหาอะไรบางอย่าง ซักพักเธอหยิบเอาโทรศัพท์ขึ้นมาดู " 12 วัน " เธอพูดต่อ
" โอ๊ย " วินอุทาน แต่ไม่ได้สื่อความหมายอะไร
" เงินในธนาคารตอนนี้เหลือ230เหรียญกับอีก28เซ็นต์ นั่นของนายนะ ของฉันเหลืออีกประมาณ500กว่าเหรียญ ยังเหลือค่าไฟที่ยังไม่ได้จ่าย แต่คงประมาณ40เหรียญ " เซียร่าอธิบายเป็นการใหญ่แต่วินฟังแบบคร่าวๆ เขาไม่ค่อยชอบเวลามีคนพูดถึงเรื่องเงินๆทองๆ เวลาเขาคิดตาม มันทำให้เขามึนหัว
สองเดือนมาแล้วที่วินไม่ได้ทำงาน จริงๆมันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรเลย เขาไม่เคยทำงานอะไรได้นานเหมือนคนอื่นๆ เขาไม่ได้เป็นคนขี้เกียจและไม่ได้เกี่ยงงาน เพียงแต่วินรู้สึกว่า การทำงานมันควรจะสนุก เมื่อไหร่ที่ทำงานแล้วไม่สนุก เขาจะลาออกเพื่อหางานใหม่ ซึ่งมันก็เป็นสิ่งที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เพราะเขาไม่ได้มีเงินเก็บมากมาย และไม่ได้มีปริญญาดีๆที่จะไปสมัครงานอะไรก็ได้ อันที่จริง เขามีแค่วุฒิมัธยมปลาย
พอจบมัธยมปลาย วินทำเต็มที่เพื่อที่จะไปเรียนต่อมหาวิทยาลัย เขาเข้าไปเรียนที่คอมมิวนิตี้คอลเลจอยู่ประมาณสองปี แต่แล้วก็ไม่จบ ไม่ได้ดีกรีอะไรกลับมาเลย ความฝันอย่างเดียวที่เขามีคือการเป็นนักเขียน แต่พอไปเรียนแล้วเขากลับรู้สึกเบื่อ ที่อาจาร์ยให้เขาทำมีแต่การให้เขียนอะไรที่เขาไม่อยากเขียน และอ่านอะไรที่เขาไม่อยากอ่าน และบวกกับการที่เขาต้องส่งตัวเองเรียน ทำให้วินต้องไปหางานทำเท่าที่พอหาได้ ทำงานในซุปเปอร์มาเก็ต เป็นพนักงานเสิร์ฟ คนล้างจาน ผู้ช่วยช่างไม้ คนขับรถส่งพิซซ่า และอีกหลายๆอย่าง พอนานๆเข้า วินไม่อยากกลับไปเรียนต่อ เขาชอบมากกว่าที่จะหาหนังสืออ่านเอาเองยามว่าง ร้านหนังสือมือสอง วินรู้สึก เป็นเหมือนวิทยาลัยที่ไม่ต้องเสียค่าเรียน
" ต้องกลับไปดูที่ห้องว่ามีอะไรขายได้อีก " วินพูด
" นายจะคิดอะไรให้มากกว่า ขาย ขาย ขาย ได้มะ "
" คนไทยเวลาไม่มีอะไรทำก็ขายของ " เขาตอบ
" นายรู้ได้ไง นายไม่ใช่คนไทยซะหน่อย พ่อนายต่างหาก "
" พ่อฉันบอกมา คนไทยเจ๋งที่สุดในโลก "
" เอาเหอะ " เซียร่าพูด เธอหันไปมองทางอื่น
" คนเยอรมันก็เจ๋งใช้ได้นะ "
" เยอรมัน ? " เธอสงสัย
" เธอมีเชื้อเยอรมันไม่ใช่เหรอ จำได้เธอเคยบอก "
" แม่ฉันเป็นคนดัชท์ ฉันบอกนายไปสิบรอบแล้ว "
" อ้าวเหรอ กำลังจะบอกเลยว่า ไอสไตน์ก็เจ๋งใช้ได้ "
" เจ๋งใช้ได้ ? เลิกพูดภาษาแปลกๆซะที "
" ดัชท์.. ดัชท์.. " วินพยายามนึก
" แฮร์รี่ มูลิสช์ " เซียร่าพูดในที่สุด เธอตื่นเต้นทุกครั้งที่ได้ยินชื่อนี้ แต่เธอซ่อนความตื่นเต้นเอาไว้
" อ้า ใช่ อัจฉริยะ "
" เข้าเรื่องก่อนได้มั้ย จะเอายังไงดี " เซียร่าถอนหายใจ
ทั้งคู่ลุกจากริมแม่น้ำแล้วออกเดิน เซียร่ายังอยากจะนั้งต่อซักพัก แต่วินแนะนำว่าควรจะเปลี่ยนกิริยาบท จากนั้งคิดเป็นเดินคิด เขาบอกต่อ แล้วก็ให้ไปยืนคิดบนสะพานฟรีมอนต์ แล้วปิดท้ายด้วยการกลับบ้านไปนอนคิด มันต้องมีสักกิริยาบทที่ช่วยให้คิดออก เซียร่าคิดว่าวินพยายามทำตัวตลกเพื่อผ่อนคลาย เธอเกือบจะขำนิดๆแต่ไม่ได้ขำ วินในทางกลับกัน ไม่ได้พยายามทำตัวตลก เขาคิดอย่างนั้นจริงๆ เพียงแต่เขาสื่อมันออกมาในมุมตลกๆ เธอจะได้ไม่หาว่าเขาบ้า
ทั้งคู่ลุกจากริมแม่น้ำแล้วออกเดิน เซียร่ายังอยากจะนั้งต่อซักพัก แต่วินแนะนำว่าควรจะเปลี่ยนกิริยาบท จากนั้งคิดเป็นเดินคิด เขาบอกต่อ แล้วก็ให้ไปยืนคิดบนสะพานฟรีมอนต์ แล้วปิดท้ายด้วยการกลับบ้านไปนอนคิด มันต้องมีสักกิริยาบทที่ช่วยให้คิดออก เซียร่าคิดว่าวินพยายามทำตัวตลกเพื่อผ่อนคลาย เธอเกือบจะขำนิดๆแต่ไม่ได้ขำ วินในทางกลับกัน ไม่ได้พยายามทำตัวตลก เขาคิดอย่างนั้นจริงๆ เพียงแต่เขาสื่อมันออกมาในมุมตลกๆ เธอจะได้ไม่หาว่าเขาบ้า
ทันทีที่ทั้งคู่เดินไปถึงสะพานข้ามแม่น้ำ เรือที่พึ่งขับผ่านไปบีบแตร วินตกใจแต่รวบรวมสติได้ทัน เซียร่าทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทั้งคู่มาหยุดอยู่ตรงกลางสะพานแล้วมองแสงอาทิตย์สะท้อนบนผิวน้ำ เซียร่าพยายามมองหาผู้หญิงในชุดกระโปรงจากจุดที่เธอยืนอยู่ แต่เธอหาผู้หญิงคนนั้นไม่เจอ วินหลับตาแล้วสูดหายใจลึกๆเข้าปอด อากาศวันนี้สุดแสนจะสดใส
แต่พอวินลืมตา มีกระดาษหนึ่งแผ่นปลิวตัดหน้าเขาไป มันเป็นช่วงหนึ่งวินาทีที่วินเห็นคำที่เขียนอยู่บนกระดาษ ด้วยเหตุผลบางอย่าง วินรีบคว้าเพื่อจะหยิบกระดาษแผ่นนั้น แต่ปฎิกิริยาของเขาช้าไป วินคว้าอากาศ แต่เขายังไม่ลดละ วินรีบปีนขึ้นบนราวสะพานแล้วกระโจนออกไปเพื่อที่จะคว้ากระดาษที่กำลังหนีเขา โชคไม่เข้าข้าง เขาคว้าอากาศอีกครั้งและหล่นลงไปในแม่น้ำ ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างกระทันหัน กระทันหันขนาดเซียร่าที่อยู่ข้างๆยังไม่เข้าใจว่ามันพึ่งเกิดอะไรขึ้น สิ่งเดียวที่เธอรู้คือ วินหายไป และบนแม่น้ำมีวงน้ำกระจายขนาดใหญ่เกิดขึ้น พอเซียร่าประติดประต่อเรื่องได้ เธอรีบวิ่งกลับลงมาด้านล่างแล้วตะโกนเรียกชื่อวิน คนบนสะพานและบริเวณริมแม่น้ำต่างพากันหยุดดูเหตุการ์ณที่พึ่งเกิดขึ้น ซักพักเซียร่าได้ยินเสียงผู้ชายตะโกนเรียกชื่อเธอ เธอหันไปพบวินกำลังว่ายน้ำกลับเข้าฝั่ง ทันทีที่ขึ้นมาจากน้ำ เขาคุกเข่าลงไปสำลักน้ำตรงใต้ต้นไม้ เซียร่ารีบวิ่งเข้ามาหา
แต่พอวินลืมตา มีกระดาษหนึ่งแผ่นปลิวตัดหน้าเขาไป มันเป็นช่วงหนึ่งวินาทีที่วินเห็นคำที่เขียนอยู่บนกระดาษ ด้วยเหตุผลบางอย่าง วินรีบคว้าเพื่อจะหยิบกระดาษแผ่นนั้น แต่ปฎิกิริยาของเขาช้าไป วินคว้าอากาศ แต่เขายังไม่ลดละ วินรีบปีนขึ้นบนราวสะพานแล้วกระโจนออกไปเพื่อที่จะคว้ากระดาษที่กำลังหนีเขา โชคไม่เข้าข้าง เขาคว้าอากาศอีกครั้งและหล่นลงไปในแม่น้ำ ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างกระทันหัน กระทันหันขนาดเซียร่าที่อยู่ข้างๆยังไม่เข้าใจว่ามันพึ่งเกิดอะไรขึ้น สิ่งเดียวที่เธอรู้คือ วินหายไป และบนแม่น้ำมีวงน้ำกระจายขนาดใหญ่เกิดขึ้น พอเซียร่าประติดประต่อเรื่องได้ เธอรีบวิ่งกลับลงมาด้านล่างแล้วตะโกนเรียกชื่อวิน คนบนสะพานและบริเวณริมแม่น้ำต่างพากันหยุดดูเหตุการ์ณที่พึ่งเกิดขึ้น ซักพักเซียร่าได้ยินเสียงผู้ชายตะโกนเรียกชื่อเธอ เธอหันไปพบวินกำลังว่ายน้ำกลับเข้าฝั่ง ทันทีที่ขึ้นมาจากน้ำ เขาคุกเข่าลงไปสำลักน้ำตรงใต้ต้นไม้ เซียร่ารีบวิ่งเข้ามาหา
" นายทำบ้าอะไรวะ เป็นอะไรรึเปล่า "
" ดะ.. ได้.. มาแล้ว.. " วินพูดด้วยอาการหอบ แล้วยื่นกระดาษให้เซียร่าดู
" ร้านหนังสือมากัส 1568 ตะวันออกเฉียงเหนือ ถนน 42.. " เซียร่าอ่านเสียงดัง " นายเสี่ยงตายเพราะต้องการจะได้ใบปลิวร้านหนังสือเนี่ยนะ "
" อื้อ " วินเริ่มหายเหนื่อย
" ฉันว่านายต้องไปเช็คสมองว่ะ "
" เซียร่า " เขาพูดชื่อเธอด้วยน้ำเสียงจริงจัง " มีบางอย่างบอกฉันว่าเราต้องไปที่นี่ "
" ถ้าเกิดมีบางอย่างบอกนายให้กระโดดลงจากตึก ป่านนี้นายไม่พูดแบบนี้หรอก "
" ไม่หรอก " วินมั่นใจ " ฉันชอบเป็นแบบนี้แหละ ทุกครั้งที่ฉันรู้สึกแบบนี้ ถ้าทำตามมัน ทุกอย่างจะดีเอง "
" นายรอดมาได้ไงวะตั้ง 24 ปี "
" 25 " วินแก้ข้อมูล " ใกล้จะวันเกิดฉันแล้ว พ่อบอกว่าชีวิตฉันจะเปลี่ยนแปลงเมื่ออายุ25 คนไทยเรียกว่า "เบญจเพศ" หรืออะไรเนี่ยแหละ "
" ฉันอยากเจอพ่อนายว่ะ " เซียร่าพูด วินเงยหน้าขึ้นมามองที่เธอ
" ฉันก็อยากเจอ "
วิน ทิพยสุนทร เกิดเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม ค.ศ. 1987 เขาเกิดในครอบครัวฐานะปานกลางในรัฐวอลชิงตันตอนตะวันออก แม่ของเขาเป็นคนอเมริกันเชื้อสายอังกฤษที่ทำงานอยู่ในกรมที่ดิน พ่อของเขาเป็นคนไทยที่ย้ายมาอยู่อเมริกาเพื่อทำธุรกิจสิ่งพิมพ์ แต่ตอนหลังผันตัวเองมาเป็นนักแปลหนังสืออิสระ ถึงจะเป็นคนไทย แต่พ่อของวินพูดได้ถึง4ภาษา ทั้งไทย อังกฤษ เสปน และฝรั่งเศส และด้วยความสามารถที่ติดตัวมา ทำให้แกไม่เคยขาดงานและสามารถเลือกงานที่ชอบทำได้อย่างไม่จำกัด ไม่ว่าจะเป็นการแปลนิยายจากอังกฤษเป็นไทย ไทยเป็นอังกฤษ แปลกวีนิพนธ์เสปนเป็นอังกฤษ แล้วก็แปลจากอังกฤษเป็นไทยอีกที หรือแม้กระทั้งการแปลคอลัมน์ในนิตยาสารฝรั่งเศส ทีเดียวออกเป็นสามภาษา
แต่พอวินอายุได้ 7 ขวบ พ่อของเขาเสียชีวิตลงด้วยโรคประจำตัว เหลือทิ้งเอาไว้เพียงช่องว่างและคลังหนังสือขนาดใหญ่ วินได้รับอิทธิพลในการใช้ชีวิตส่วนใหญ่มาจากพ่อของเขา แทนที่จะวิ่งเล่นนอกบ้านเหมือนเด็กทั่วไป วินผจญภัยในห้องทำงานของพ่อ ห้องสมุดสำหรับเขา คือดินแดนลึกลับ และการอ่านหนังสือ คือการพจญภัยที่ไม่มีที่สิ้นสุด พออายุได้18ปี วินย้ายออกมาอยู่คนเดียวเพื่อที่จะไปเรียนต่อมหาวิทยาลัย นั้นเป็นตอนที่เขาออกมาพบกับความเป็นจริง ความฝันที่จะเป็นนักเขียนที่เขียนอะไรก็ได้ตามใจชอบ เป็นยิ่งกว่าฝันในนิยาย เพราะนอกจากสิ่งที่เขาเขียนจะไม่ทำเงิน มันยังทำให้เขารู้สึกแตกต่างจากคนทั่วๆไป แม้แต่เพื่อนที่เขาเคยสนิทด้วย ก็ไม่มีสักคนเลยที่เข้าถึงสิ่งที่เขาทำ จนเขามาเจอเซียร่า
แต่พอวินอายุได้ 7 ขวบ พ่อของเขาเสียชีวิตลงด้วยโรคประจำตัว เหลือทิ้งเอาไว้เพียงช่องว่างและคลังหนังสือขนาดใหญ่ วินได้รับอิทธิพลในการใช้ชีวิตส่วนใหญ่มาจากพ่อของเขา แทนที่จะวิ่งเล่นนอกบ้านเหมือนเด็กทั่วไป วินผจญภัยในห้องทำงานของพ่อ ห้องสมุดสำหรับเขา คือดินแดนลึกลับ และการอ่านหนังสือ คือการพจญภัยที่ไม่มีที่สิ้นสุด พออายุได้18ปี วินย้ายออกมาอยู่คนเดียวเพื่อที่จะไปเรียนต่อมหาวิทยาลัย นั้นเป็นตอนที่เขาออกมาพบกับความเป็นจริง ความฝันที่จะเป็นนักเขียนที่เขียนอะไรก็ได้ตามใจชอบ เป็นยิ่งกว่าฝันในนิยาย เพราะนอกจากสิ่งที่เขาเขียนจะไม่ทำเงิน มันยังทำให้เขารู้สึกแตกต่างจากคนทั่วๆไป แม้แต่เพื่อนที่เขาเคยสนิทด้วย ก็ไม่มีสักคนเลยที่เข้าถึงสิ่งที่เขาทำ จนเขามาเจอเซียร่า
" ไม่เคยได้ยินชื่อร้านนี้เลย " วินพูดกับเซียร่า แต่เธอไม่ได้ตั้งใจฟัง
" อะไรนะ "
" เปล่าไม่มีอะไร แค่..อยู่ดีๆก็นึกถึงอะไรขึ้นมาได้ "
" นึกถึงอะไร " เซียร่าถาม " อย่าบอกนะว่านายมีอะไรแว่ปเข้ามาอีกเหมือนตอนนั้น "
" เปล่า " วินหัวเราะ " แค่พอได้มาร้านหนังสือแล้วมันทำให้นึกถึงอะไรบางอย่าง ก็แค่นั้น " เขาเงยหน้าขึ้นมองนกที่เกาะอยู่บนหลังคา
..........
ทั้งสองเดินมาถึงอาคารโบราณที่ตัวตึกสร้างขึ้นจากอิฐทั้งหลัง ซีกด้านในของตัวอาคารมีไม้เลื้อยสีเขียวจำนวนมากเกาะอยู่เกือบจะทั่วบริเวณ ที่ชั้นสองและชั่้นสามของตัวตึกเป็นที่อยู่อาศัย ซึ่งดูได้จากหน้าต่างแบบเปิดขึ้นจำนวนมากที่มีอยู่โดยรอบ ชั้นล่างของตัวตึกเปิดเป็นที่ว่างให้เช่ากิจการ ร้านหนังสือมากัสตั้งอยู่ชั้นล่างด้านในสุดของปลายทางเดิน
นี่เป็นครั้งแรกที่วินเคยมาร้านนี้ เขารู้จักถิ่นนี้เป็นอย่างดี แต่เขาไม่เคยเห็นร้านนี้มาก่อน พอมาถึง ทั้งสองหยุดยืนดูตู้โชว์ด้านหน้าที่มีหนังสือวางโชว์เอาไว้อย่างเรียงราย วินหันไปสบตากับเซียร่า เขาพยักหน้านิดๆเพื่อสื่อความหมายอะไรบางอย่าง เซียร่าไม่แน่ใจว่าวินจะสื่ออะไรแต่เธอก็พยักหน้าตาม ทันทีที่เปิดประตูเข้าไปในร้าน ผู้หญิงผิวขาววัยกลางคนกำลังจัดกองหนังสือที่วางอยู่เรียงรายที่ตรงด้านในสุด เธอหันมาทักทายแล้วหันกลับไปจัดหนังสือต่อ
นี่เป็นครั้งแรกที่วินเคยมาร้านนี้ เขารู้จักถิ่นนี้เป็นอย่างดี แต่เขาไม่เคยเห็นร้านนี้มาก่อน พอมาถึง ทั้งสองหยุดยืนดูตู้โชว์ด้านหน้าที่มีหนังสือวางโชว์เอาไว้อย่างเรียงราย วินหันไปสบตากับเซียร่า เขาพยักหน้านิดๆเพื่อสื่อความหมายอะไรบางอย่าง เซียร่าไม่แน่ใจว่าวินจะสื่ออะไรแต่เธอก็พยักหน้าตาม ทันทีที่เปิดประตูเข้าไปในร้าน ผู้หญิงผิวขาววัยกลางคนกำลังจัดกองหนังสือที่วางอยู่เรียงรายที่ตรงด้านในสุด เธอหันมาทักทายแล้วหันกลับไปจัดหนังสือต่อ
" แล้วเอาไงต่อ " เซียร่าถาม
" ไม่รู้ดิ พอเข้ามาแล้วก็ไม่มีอะไร " วินตอบแบบตรงไปตรงมา
" บางทีไอ้บางอย่างที่นายว่า คือ นายต้อง "ขาย" หนังสือซะบ้าง " เธอหันมามองที่วิน
" ไม่ใช่หรอก ฉันว่า เราต้อง "ซื้อ" หนังสือซะบ้าง " วินตอบแบบไม่หันมามอง สายตาของเขาจับจ้องไปที่หนังสือต่างๆที่อยู่บนชั้น
" แล้วมันจะช่วยให้เราดีขึ้นได้ยังไง บางทีไอ้ซิกเซ็นต์ของนายมันไม่ได้ผลหรอก "
" เซียร่า ร้านนี้เลขที่เท่าไหร่นะ " วินถาม เธอเอากระดาษขึ้นมาดู
" 1568 "
" แล้วถนนอะ "
" ถนน 42 "
" อืมม " วินไม่แน่ใจว่าเขาถามทำไม ตอนแรกเขาอยากจะทำตัวเป็นเชอร์ลอคโฮม เขาอยากจะเดินวนในร้าน1568ก้าว แล้วเลือกเอาหนังสือเล่มที่42ขึ้นมาอ่าน แล้วเขาก็จะเจอคำตอบซ่อนอยู่ในหนังสือ วินยืนคิดว่าเขาควรจะทำดีหรือไม่ ถ้าเขาบอกเซียร่า เธอจะต้องหาว่าเขาบ้า ซึ่งมันก็ไม่แปลก วินคิด แต่ที่บ้าไปกว่านั้นคือการเดิน1568ก้าว มันใช้เวลานานเกินไป
" เธอ ฉันจะลองเดินวนๆดู "
" เดินวน? ตามใจนายเถอะ "
" เธอจะไปซื้อกับข้าวมาทำกินป่ะ ? "
" ซื้อกับข้าว? ทำไมต้องตอนนี้ ไว้รอไปด้วยกันดิ "
" เธอไปเลยก็ได้นะ นี่เงิน ซื้อน้ำมาด้วย ฉันเอาน้ำไวตามินรสแก้วมังกร อันสีแดงๆอะ รีบไปเลยนะ แล้วไม่ต้องรีบนะ ค่อยๆซื้อ " วินเดินไปเปิดประตูให้เธอ เซียร่าที่ยังงงๆจำใจเดินออกมาจากร้านในที่สุด ทันทีที่วินแน่ใจว่าเธอไม่อยู่แล้ว เขาเริ่มเดินวนตามเข็มนาฬิกาพร้อมกับนับก้าวในใจ เพื่อไม่ให้คนสงสัย เขาพยายามเดินแบบทำเป็นมองหนังสือต่างๆที่อยู่บนชั้น แต่พอวนได้ประมาณ4รอบ เขาเริ่มเกิดอาการมึนหัว และตามมาด้วยอาการปวดหัว เพราะหนังสือต่างๆในร้านถูกเรียงไว้ในแนวตั้งและแนวนอน และมันมีอยู่มากมายหลายพันเล่ม และทุกครั้งที่วินทำเป็นมองหาหนังสือ เขาจะต้องเอียงคอมอง เพราะไม่งั้นมันจะดูเหมือนว่าเขาไม่ได้สนใจจะอ่านชื่อที่อยู่บนปกและชื่อคนเขียน วินหยุดพักเพื่อตั้งสติ ทันใดนั้นมีคนมาหยุดอยู่ข้างหลัง
" เป็นอะไรรึเปล่าคะ " พนักงานผู้หญิงคนนั้นถามขึ้น ในอ้อมแขนของเธอมีหนังสือวางซ้อนกันอยู่หลายเล่ม เธอมองมาที่เขาด้วยแววตาเป็นมิตร ดูจากอายุ หน้าตา และการแต่งตัว วินคิดว่าเธอต้องเป็นเจ้าของมากกว่าเป็นพนักงานธรรมดา เธอมีรอยยิ้มของคนมีระดับ แต่ในเวลาเดียวกัน จริงใจ
" ผมแค่เวียนหัวนิดหน่อย หนังสือเยอะน่ะครับ "
" ค่ะ เรามีหนังสือมากเกิน คุณเห็นที่กองเป็นภูเขาอยู่ด้านหลังมั้ย นั้นเป็นพวกหนังสือที่เราพึ่งรับซื้อมา แต่ร้านเราส่วนมากจะรับซื้อแต่หนังสือดีๆนะคะ และก็ยังมีหนังสือหายากที่ส่วนใหญ่เลิกพิมพ์ไปแล้ว คุณสนใจหนังสืออะไรเป็นพิเศษมั้ย "
" หนังสือเกี่ยวกับบ้านมีมั้ยครับ " วินนึกอะไรไม่ออก
" บ้าน? ถ้าเป็นพวกสถาปัตยกรรมละก็ อยู่ตรงมุมในสุดของทางเดินนั้นน่ะค่ะ " เนื่องจากมือทั้งสองข้างของเธอไม่ว่าง ผู้หญิงคนนั้นใช้หน้าบอกทาง วินมองตามทิศทางของหน้าของเธอ เขาขอบคุณแล้วเดินไปทางนั้น
ทันทีที่ไปถึง เขาสุ่มหยิบหนึ่งเล่มขึ้นมาทำเป็นอ่าน จริงๆเขาไม่ได้อยากรู้เกี่ยวกับบ้านหรือสถาปัตยกรรม เขาแค่นึกถึงค่าห้องเช่าที่จะต้องจ่ายในอีก12วันต่อจากนี้ ซึ่งถ้ารวมเงินของเขากับเซียร่าเข้าด้วยกัน มันก็จะพอแบบฉิวเฉียด แต่พวกเขาก็จะไม่มีเงินเก็บเหลืออยู่เลย และมันก็จะเป็นเดือนสุดท้ายที่จะมีห้องอยู่ ถ้าเขาไม่รีบหาวิธีที่จะได้เงินมา บางทีเขาน่าจะทนเรียนต่อให้จบ หรือเลือกเรียนสาขาอื่น อะไรก็ได้ที่จบออกมาแล้วมีงานทำ วินเริ่มท้อ อุดมการณ์และความพยายามที่เขาได้มาจากพ่อไม่เพียงพอที่จะทำให้อยู่รอด ในสังคมแบบนี้ ในโลกที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา วินเดินไปที่เคาร์เตอร์เพื่อจ่ายเงินซื้อหนังสือเล่มนั้น เขากดกริ่ง
" เรียบร้อยแล้วเหรอ " ผู้หญิงคนเดิมเดินออกมาจากหลังร้าน เธอเอามือรับหนังสือจากวิน แล้วสังเกตุที่หน้าปก " วิธีออกแบบและสร้างบ้านด้วยตนเอง ของ ลูเป้ ดี ดอนโน่ น่าสนใจดีนะ จริงๆถ้าฉันมีที่ดินและมีเงินสักก้อน ฉันก็อยากจะลองสร้างบ้านด้วยตัวเองดูเหมือนกัน ฉันเคยได้ยินมาว่า ในรัฐวอลชิงตัน ถ้าเราไปหาที่ๆอยู่ไกลออกไปหน่อย แล้วเป็นที่ๆไม่มีถนนตัดผ่าน ไม่มีไฟฟ้าเข้าถึง ไม่มีน้ำประปา แล้วเป็นที่ดินเล็กๆที่ใช้ทำอะไรไม่ได้ มันจะถูกมากๆ แค่ไม่กี่พันเหรียญก็ซื้อได้ น่าตกใจใช่มั้ยคะ " เธอพูดแบบยิ้มแย้ม วินรีบจ่ายเงิน ขอบคุณ แล้วเดินออกมาจากร้าน ทันทีที่ไปถึง เขาสุ่มหยิบหนึ่งเล่มขึ้นมาทำเป็นอ่าน จริงๆเขาไม่ได้อยากรู้เกี่ยวกับบ้านหรือสถาปัตยกรรม เขาแค่นึกถึงค่าห้องเช่าที่จะต้องจ่ายในอีก12วันต่อจากนี้ ซึ่งถ้ารวมเงินของเขากับเซียร่าเข้าด้วยกัน มันก็จะพอแบบฉิวเฉียด แต่พวกเขาก็จะไม่มีเงินเก็บเหลืออยู่เลย และมันก็จะเป็นเดือนสุดท้ายที่จะมีห้องอยู่ ถ้าเขาไม่รีบหาวิธีที่จะได้เงินมา บางทีเขาน่าจะทนเรียนต่อให้จบ หรือเลือกเรียนสาขาอื่น อะไรก็ได้ที่จบออกมาแล้วมีงานทำ วินเริ่มท้อ อุดมการณ์และความพยายามที่เขาได้มาจากพ่อไม่เพียงพอที่จะทำให้อยู่รอด ในสังคมแบบนี้ ในโลกที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา วินเดินไปที่เคาร์เตอร์เพื่อจ่ายเงินซื้อหนังสือเล่มนั้น เขากดกริ่ง
พอออกมา เขากดโทรศัพท์หาเซียร่า เธอรับในกริ๊งที่สาม พอเธอกดรับ เซียร่าบอกวินว่าเธอหาน้ำไวตามินรสที่เขาอยากได้ไม่เจอ แต่เธอซื้อรสที่เธอชอบมาให้แทน แล้วเธอก็สาธยายถึงอาหารเย็นวันนี้ที่ไม่รู้จะทำอะไรดี และต่อด้วยเรื่องคิวจ่ายเงินของร้านที่ทำให้เธอรอนานกว่าปกติ วินตั้งใจฟังทุกอย่างที่เซียร่ากำลังเล่า เขารออย่างใจเย็น เมื่อไหร่ที่เซียร่าเลิกบ่น เขาจะคุยกับเธอ เขาจะบอกเธอ ว่าเขาพึ่งเจอวิธี
No comments:
Post a Comment