สร้าง
วินคัดแยกของเก่าทั้งหมดที่เจอออกเป็นสามกอง กองแรก เขาเอาติดมาด้วย ซึ่งล้วนแต่เป็นของที่จำเป็นต้องใช้และใช้งานได้เลย กองที่สอง เป็นของที่ยังต้องทำการซ่อมแซมหรือต้องหาทางดัดแปลง วินเก็บมันทั้งหมดไว้ในห้องเช่า ส่วนกองที่สาม เป็นของที่เขาเอาไปขายเพื่อเอาเงินมาเป็นต้นทุน พอขายของได้ วินตัดสินใจที่จะจ้างคนมาช่วยทำงาน เขาขับรถตู้ขนของขนาดใหญ่ที่เช่ามาตรงดิ่งไปยังร้านขายอุปกรณ์ก่อสร้างที่อยู่แถวบ้าน
พอการเจรจาจบลง เซียร่าจ่ายเงินหนึ่งส่วนสี่ของค่าแรงให้พวกเขาอย่างไม่รีรอ และสัญญาจะจ่ายเงินที่เหลือเมื่องานสำเร็จ วินที่อยู่ในเหตุการ์ณตอนนั้น แอบภูมิใจที่เซียร่าทำตัวเหมือนนักธุรกิจที่ดี ถ้าไม่จ่ายเงินล่วงหน้าเลย เธอบอกทีหลัง พวกเขาจะไม่มีแรงบันดาลใจที่จะทำงาน แต่ถ้าจ่ายหมดเลยล่วงหน้า พวกเขาจะทำงานแบบสุรุ้ยสุหร้าย ซึ่งแน่นอนว่าเป็นอะไรที่วินไม่มีทางคิดออก ถ้าเป็นเขา วินจะจ่ายเงินทั้งหมดให้ตั้งแต่ตอนแรกที่เจอกันเลย แล้วรีบจับมือทำสัญญาลูกผู้ชายกับคนเหล่านั้น และอาจจะแถมเบียร์ให้คนละกระป๋องล่วงหน้า เป็นสินน้ำใจเล็กๆน้อยๆ สัญญาอามีโก้เนี่ยแหละ วินคิด ต้องซื้อด้วยใจอย่างเดียว
รถวิ่งออกห่างจากตัวเมืองซีแอตเทิลมาเป็นเวลาประมาณสองชั่วโมง ตลอดทาง บทสนทนาเสียงดังในรถเกิดขึ้นแค่ในกลุ่มคนห้าคนที่พูดภาษาเสปน ชายทั้งห้าคนต่างง่วนอยู่กับกิจกรรมของตน บ้างคุยโทรศัพท์ บ้างร้องเพลงแร็ป บ้างกำลังนอนกรน บ้างสนทนาและพลัดกันหัวเราะ ปล่อยให้วินกับเซียร่าที่นั้งอยู่ด้านหน้า นั้งนิ่งและคิดอะไรบางอย่างเงียบๆอยู่ลำพัง ถึงสิ่งต่างๆที่คิดอยู่ในหัวจะต่างกัน แต่ลึกๆทั้งสองคนต่างรู้สึกตรงกัน ว่าสิ่งที่กำลังรอพวกเขาอยู่ข้างหน้า มันช่างเป็นอะไรที่แปลกประหลาดเกินความจริง มันเป็นเหมือนเรื่องแต่งที่เกิดขึ้นเฉพาะแต่ในนิยายหรือในหนัง ความกังวลและความตื่นเต้นมากมายต่างอัดอั้นอยู่ภายใน ยิ่งพวกเขาเข้าใกล้ที่หมายมากเท่าไหร่ โลกแห่งความเป็นจริงกำลังไกลออกไปมากเท่านั้น
รถวิ่งออกห่างจากตัวเมืองซีแอตเทิลมาเป็นเวลาประมาณสองชั่วโมง ตลอดทาง บทสนทนาเสียงดังในรถเกิดขึ้นแค่ในกลุ่มคนห้าคนที่พูดภาษาเสปน ชายทั้งห้าคนต่างง่วนอยู่กับกิจกรรมของตน บ้างคุยโทรศัพท์ บ้างร้องเพลงแร็ป บ้างกำลังนอนกรน บ้างสนทนาและพลัดกันหัวเราะ ปล่อยให้วินกับเซียร่าที่นั้งอยู่ด้านหน้า นั้งนิ่งและคิดอะไรบางอย่างเงียบๆอยู่ลำพัง ถึงสิ่งต่างๆที่คิดอยู่ในหัวจะต่างกัน แต่ลึกๆทั้งสองคนต่างรู้สึกตรงกัน ว่าสิ่งที่กำลังรอพวกเขาอยู่ข้างหน้า มันช่างเป็นอะไรที่แปลกประหลาดเกินความจริง มันเป็นเหมือนเรื่องแต่งที่เกิดขึ้นเฉพาะแต่ในนิยายหรือในหนัง ความกังวลและความตื่นเต้นมากมายต่างอัดอั้นอยู่ภายใน ยิ่งพวกเขาเข้าใกล้ที่หมายมากเท่าไหร่ โลกแห่งความเป็นจริงกำลังไกลออกไปมากเท่านั้น
" เพื่อน ฉันหิว " แดเนียวชายที่ดูบึกบึนและโผงผางมากที่สุดในกลุ่มเอ่ยปากพูดออกมา
" หิว ? " วินเอียงคอไปถาม เขาเปิดที่เก็บของข้างหลังเกียร์แล้วหยิบเอาถั่วคั่วในถุงพลาสติกออกมา แดเนียวรีบเปิดถุงแล้วกินถั่ว
" เซียร่า เธอหิวป่ะ " วินหันไปถาม เธอส่ายหน้าเบาๆ
" อีกไม่นานก็น่าจะถึง " วินหันไปบอกพวกเขาเหล่านั้นเป็นภาษาเสปน
" นาย..นายพูดเสปนได้เหรอ " เจอร์รี่ชายผอมผิวคล้ำที่สุดในกลุ่มเอ่ยปากถามต่อ
" ใช่ พูดได้แต่ไม่เก่งมาก พ่อฉันสอนมา " วินตอบ ชายคนนั้นพยักหน้าไหวๆ
" นี่ ตกลงเราจะมาทำอะไรกันไกลขนาดนี้ "
" อ่าว เธอไม่ได้บอกพวกนายเหรอ "
" บอก แต่ฉันไม่ได้ฟัง ฉันมัวแต่มองหน้าอกเธอระหว่างที่เธอพูด "
" เยี่ยมมาก เราจะมาสร้างบ้าน "
" สร้างบ้าน เฮ้ เพื่อน นายบ้าเหรอ " แดเนียวพูดแทรก
" เกือบจะบ้าแต่ยัง " วินยิ้ม " พวกนายไหวมั้ย " วินถามต่อ แต่ไม่มีใครตอบ
" นี่ ฉันจะเอาอะไรให้ดู " วินพูดแล้วบอกให้เซียร่าหยิบแพลนบ้านออกมาโชว์ให้พวกเขาดู
" เพื่อน นายบ้าจริงๆด้วยว่ะ " ทุกคนต่างโวยวายแล้วก็เงียบไป
" ฉันรู้สึกว่าพวกนายทำได้ " วินพูดต่อ แต่ไม่มีใครตอบอะไร
………………
ที่ๆวินซื้อเอาไว้เป็นทุ่งหญ้าใกล้กับทะเลสาปโมเสสที่อยู่ทางฝั่งตะวันออกของรัฐ จากข้อมูลที่นายหน้าบอกเขา มันเป็นที่ราบบนเนินเขาที่มีขนาดประมาณสองเอเคอร์ ไฟฟ้ามีแต่ห่างออกไปประมาณ1000ฟีตและต้องขอเรื่องรับการติดตั้งจากทางกรม น้ำประปาไม่มีไหลผ่านต้องพึ่งน้ำจากบ่อและระบบถ่ายน้ำเสียต้องติดตั้งขึ้นเป็นพิเศษผ่านแทงก์ใต้ดินที่มีเตรียมไว้ให้ แต่วินได้คิดล่วงหน้าเอาไว้หมดแล้ว
สิ่งแรกที่เขาทำเมื่อมาถึงคือการเดินสำรวจพื้นที่ วินเดินไปรอบๆที่ๆเต็มไปด้วยก้อนหินขนาดใหญ่ หญ้าอ่อนและต้นไม้เตี้ยๆจำนวนมาก ไกลๆออกไปมองเห็นเป็นวิวของเทือกเขา ถึงวิวจะไม่เด่นชัดแต่มันก็เป็นทิวทัศน์ที่ไม่ค่อยมีใครได้เห็น วินเดินมาเรื่อยๆจนมาเจอบ่อน้ำหินขนาดเล็กที่มีคนทำเอาไว้แล้ว พื้นที่รอบๆบริเวณนั้นมีร่องรอยของการก่อสร้างบ้านมาก่อน เขาสังเกตุเห็นเศษข้าวของเล็กๆน้อยๆ เช่นเศษผ้าและไม้ที่หักและผุ โดยไม่รีรอ เขาตัดสินใจจะสร้างบ้านใหม่ขึ้นมาบนพื้นที่ๆมีการเตรียมดินเอาไว้ให้เรียบร้อย วินและทุกๆคนค่อยๆลำเลียงไม้ขนาดใหญ่ที่ผูกไว้บนหลังคารถลงมา จากงานที่เตรียมมาล่วงหน้า วินลงมือทำลิ่มจากเสาไม้พวกนั้นด้วยตัวเอง เขาแบ่งงานให้เจอร์รี่และแดเนียวไปเตรียมงานสร้างพื้นที่จะทำเป็นฐานของบ้าน
วินเอาแพลนเฉพาะของการทำฐานออกมากางและอธิบายให้ทั้งสองคนฟังอย่างละเอียด โดยไม่รู้ตัว ทั้งแดเนียวและเจอร์รี่ต่างฟังอย่างตั้งใจ พวกเขาตะลึงในความรอบรู้ของวิน ชายที่อยู่ตรงหน้าพวกเขาตอนนี้ไม่ใช่แค่เด็กธรรมดาๆ แต่เป็นผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์สร้างบ้านมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน อีกสามคนที่เหลือ รับหน้าที่เตรียมไม้เล็กๆปรีกย่อยที่จะมาทำเป็นผนังโดยรอบ เซียร่ารับหน้าที่เตรียมดินทำแปลงปลูกผักตามที่วินออกแบบเอาไว้
เวลาผ่านไปประมาณ6ชั่วโมง ด้วยเหตุผลบางอย่างที่ไม่มีใครรู้ งานรุดหน้าไปได้ด้วยดี เหมือนกับว่าพวกเขาทั้งเจ็ดคนเคยทำงานแบบนี้ร่วมกันมาหลายต่อหลายครั้ง แดเนียวและเจอร์รี่รู้สึกเหมือนมีพลังอะไรบางอย่าง ผลัดดันให้พวกเขาทำงานอย่างไม่หยุดและไม่บ่น ความเหนื่อยกลายเป็นการออกกำลังกาย และความสนุกที่ได้ทำงานร่วมกับวินค่อยๆเผยให้เห็นบนใบหน้าของพวกเขาทั้งสอง พองานรุดหน้า ทุกคนหยุดพักกินข้าว
เวลาผ่านไปประมาณ6ชั่วโมง ด้วยเหตุผลบางอย่างที่ไม่มีใครรู้ งานรุดหน้าไปได้ด้วยดี เหมือนกับว่าพวกเขาทั้งเจ็ดคนเคยทำงานแบบนี้ร่วมกันมาหลายต่อหลายครั้ง แดเนียวและเจอร์รี่รู้สึกเหมือนมีพลังอะไรบางอย่าง ผลัดดันให้พวกเขาทำงานอย่างไม่หยุดและไม่บ่น ความเหนื่อยกลายเป็นการออกกำลังกาย และความสนุกที่ได้ทำงานร่วมกับวินค่อยๆเผยให้เห็นบนใบหน้าของพวกเขาทั้งสอง พองานรุดหน้า ทุกคนหยุดพักกินข้าว
เซียร่ากลับเข้าไปในรถตู้แล้วหยิบเอาอาหารที่ทำเตรียมเอาไว้ออกมา พอเห็นว่าฟ้าเริ่มมืด วินก่อกองไฟ และทุกคนล้อมรอบกินอาหารเย็น
" เพื่อน เออ…วิน นายตั้งใจจะทำให้สำเร็จจริงๆใช่ไหม " แดเนียวถาม
" ใช่ ตอนนี้เราได้ฐานบ้านแล้วและเสาหลักทั้งสี่อันก็เสร็จ "
" แล้วนายจะอยู่ตรงนี้จริงๆหรอ ฉันหมายถึง ไฟฟ้า น้ำอะไรก็ไม่มี "
" ฉันคิดเอาไว้แล้วหล่ะ ฉันจะทำเป็นเหมือนกระท่อมเล็กๆ "
" แล้วนายจะอยู่ตรงนี้ได้เหรอ นายจะทำงานอะไร "
" ยังไม่รู้เลย " วินหันไปมองเซียร่า ที่ดูเงียบผิดปกติตั้งแต่มาถึง " แต่ทางออกมันจะมาเอง เมื่อสร้างบ้านเสร็จ "
" เพื่อน ฉันมีไอเดีย " แดเนียวพูดต่อ " ถ้านายสัญญาจะเพิ่มค่าแรงให้อีกเท่านึง ซึ่งนายจะจ่ายให้พวกฉันเมื่อไหร่ก็ได้ ฉันจะพาคนมาช่วยทำเพิ่มอีก "
" จ่ายเมื่อไหร่ก็ได้ ? " วินสงสัย
" เมื่อนายพร้อมจะจ่าย " วินลังเล เขาหันไปมองที่เซียร่า
" งั้นก็ได้ " เขาตอบในที่สุด
" งั้นตกลงตามนี้ "
หนึ่งอาทิตย์ต่อมา ท่ามกลางทุ่งหญ้าที่เคยว่างเปล่า กลับมีบ้านหลังเล็กๆตั้งตระหง่านอยู่ ลักษณะของมันเหมือนกับกระท่อมไม้ธรรมดาๆ แต่ทั้งตำแหน่งและรูปทรงดูจะกลมกลืนไปกับทุกๆสิ่ง สีเขียวซีดของใบหญ้า สีน้ำตาลแก่ของไม้ สีฟ้าอ่อนของท้องฟ้า สีโปร่งใสของสายลม แม้แต่ตำแหน่งของตัวบ้านก็เป็นการจัดองค์ประกอบที่ลงตัวกับธรรมชาติโดยรอบ ด้านข้างของตัวบ้านหันไปทางทิศใต้ ซึ่งไปตรงกับตำแหน่งที่พระอาทิตย์เคลื่อนตัวในแต่ละวัน เพราะลักษณะของที่ดินที่บังเอิญไปอยู่ตรงไหลเขาทางทิศใต้พอดี ทำให้ลมไม่พัดแรงเกินไปเหมือนกับตรงยอดเขา และทำให้ปริมาณแสงอาทิตย์ที่กระทบเข้าหาพนังบ้านมีมากกว่าปกติ บ้านหลังนี้จึงสามารถใช้ประโยชน์สูงสุดจากแผงโซล่าเซลที่ติดตั้งไว้บนหลังคา ที่จะเป็นตัวหลักในการผลิตกระแสไฟฟ้าสำหรับอุปกรณ์ต่างๆภายในบ้าน
หนึ่งอาทิตย์ต่อมา ท่ามกลางทุ่งหญ้าที่เคยว่างเปล่า กลับมีบ้านหลังเล็กๆตั้งตระหง่านอยู่ ลักษณะของมันเหมือนกับกระท่อมไม้ธรรมดาๆ แต่ทั้งตำแหน่งและรูปทรงดูจะกลมกลืนไปกับทุกๆสิ่ง สีเขียวซีดของใบหญ้า สีน้ำตาลแก่ของไม้ สีฟ้าอ่อนของท้องฟ้า สีโปร่งใสของสายลม แม้แต่ตำแหน่งของตัวบ้านก็เป็นการจัดองค์ประกอบที่ลงตัวกับธรรมชาติโดยรอบ ด้านข้างของตัวบ้านหันไปทางทิศใต้ ซึ่งไปตรงกับตำแหน่งที่พระอาทิตย์เคลื่อนตัวในแต่ละวัน เพราะลักษณะของที่ดินที่บังเอิญไปอยู่ตรงไหลเขาทางทิศใต้พอดี ทำให้ลมไม่พัดแรงเกินไปเหมือนกับตรงยอดเขา และทำให้ปริมาณแสงอาทิตย์ที่กระทบเข้าหาพนังบ้านมีมากกว่าปกติ บ้านหลังนี้จึงสามารถใช้ประโยชน์สูงสุดจากแผงโซล่าเซลที่ติดตั้งไว้บนหลังคา ที่จะเป็นตัวหลักในการผลิตกระแสไฟฟ้าสำหรับอุปกรณ์ต่างๆภายในบ้าน
บ่อน้ำขนาดเล็กได้ทำการปรับปรุง ทำให้มันอยู่ในสภาพที่ใช้งานได้ดี บวกกับที่รองน้ำฝนที่ทำเอาไว้เพื่อแปลงผักเล็กๆ ที่มีการปลูกผักสวนครัวและดอกไม้ และระบบการถ่ายน้ำเสียที่ได้รับการติดตั้งอย่างดีจากมืออาชีพ ทำให้ปัญหาเรื่องของน้ำกินและน้ำใช้หมดไป
ข้าวของต่างๆที่อยู่ภายในบ้าน มาจากของมือสองที่ถูกจัดให้เข้าชุดกันอย่างลงตัว เมื่อย่างเท้าเข้าประตู จะพบกับห้องหนึ่งห้องที่ถูกแบ่งออกเป็นส่วนๆ ทางฝั่งซ้ายเป็นห้องครัวขนาดเล็กและห้องน้ำ ส่วนทางฝั่งขวาเป็นที่นอนและที่กินข้าว ที่มุมขวาสุดของบ้านติดหน้าต่างขนาดใหญ่ทำไว้เป็นมุมเขียนหนังสือ ที่มีโต๊ะ เก้าอี้ และเครื่องพิมพ์ดีด แจกันดินเผาใบเล็ก ถูกตั้งไว้ริมหน้าต่างพร้อมกับดอกลิลลี่สีม่วงหนึ่งดอก หนังสือที่มีอยู่มากมาย ถูกทำให้เป็นชั้นวางของโดยการวางซ้อนๆกัน และตำแหน่งของมันจะเปลี่ยนไปเรื่อยๆตามแต่อารมณ์ของผู้อยู่อาศัย
ด้านหลังของบ้านทำเป็นที่ทิ้งขยะ ที่จอดรถ และโกดังเก็บของขนาดเล็กเพื่อเอาไว้เก็บไม้ ของเหลือใช้ และอุปกรณ์ต่างๆ นอกจากนั้นมันยังเป็นที่แคมป์ไฟ ที่ใช้ประโยชน์จากก้อนหินขนาดพอเหมาะสามก้อน ที่ตั้งอยู่ตรงนั้นมาตั้งแต่ไหนแต่ไร ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกี่ยวกับบ้านหลังนี้ไม่เหมือนสิ่งที่ถูกสร้างขึ้น แต่เหมือนว่ามันอยู่ตรงนั้นมาตั้งนานแล้ว เหมือนว่ามันเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ เพื่อเป็นส่วนนึงของทุกๆสิ่งและเป็นส่วนนึงของทุกๆอย่าง ตอนกลางคืนที่ไม่มีแม้แต่เสียงของจั๊กจั่น ท้องฟ้าจะเต็มไปด้วยหมู่ดาวนับร้อยนับพัน ที่มองได้แต่นับไม่ได้ เพราะทุกครั้งที่มีคนพยายามจะนับมัน จะเหมือนกับว่าเขา นับเส้นผมตัวเอง
No comments:
Post a Comment