X

สำเร็จ


หนึ่งเดือนต่อมา วินได้ออกทีวี แต่ไม่ใช่เพราะบทความที่เขาใช้เวลาสองอาทิตย์มุ่งมั่นเขียนมันจนจบ แต่เป็นเพราะมีคนในระแวกนั้นให้ความสนใจ "บ้าน" ที่เขาอาศัยอยู่กับเซียร่า คนแถวนั้นพูดกันปากต่อปาก และในที่สุด ทีมข่าวโทรทัศน์ท้องถิ่นช่องนึงให้ความสนใจและได้ติดต่อขอสัมภาษณ์ ตอนแรกวินลังเล แต่สุดท้ายตอบปากรับคำ
ตอนเช้าของวันจันทร์ ทีมงานมาเคาะประตูบ้านในขณะที่วินกำลังหลับอยู่ เซียร่าเป็นคนเดียวที่ตื่นขึ้นมาและออกไปเปิดประตู ทันทีที่เธอเข้าใจเรื่อง เธอปลุกวิน เขาที่สติยังไม่กลับคืนมาร้อยเปอร์เซ็นต์ ตอบตกลง มันเกือบจะเป็นการตัดสินใจโดยใช้สัญชาติญาณและความเคยชิน เขามีนิสัยชอบตอบตกลงอยู่แล้วด้วย ไม่ว่าใครจะขออะไร

" คุณ วิน ทิพยสุนทร จากข่าวที่ผู้คนในระแวกนี้พูดกันหนาหู คุณและแฟนสาวของคุณได้อาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้มาเป็นเวลาประมาณสองเดือนแล้ว ผมพูดถูกหรือไม่ " ชายใส่แว่นในชุดเสื้อเชิตและเนคไทสีแดงถามขึ้น เขานั้งอยู่บนเก้าอี้ที่วินใช้เขียนเป็นประจำ ตัววินเองนั้งไขว่ห้างอยู่บนเตียง ผู้ชายที่มีหน้าที่ถือไมโครโฟนเขยื่อนตัวเล็กน้อย ช่างกล้องยืนเอาหลังพิงอ่างล้างจาน
" ใช่ครับ " วินกลืนน้ำลาย ปกติตื่นมาตอนเช้าเขาจะต้องดื่มน้ำอย่างน้อยหนึ่งแก้ว เขาอยากจะขออนุญาติลุกขึ้นไปดื่มน้ำก่อนแต่ในบ้านตอนนี้มีคนอยู่แออัดเต็มไปหมด ไม่มีที่ให้ขยับตัวกันมาก และที่สำคัญ เขากำลังอยู่ในระหว่างการสัมภาษณ์ นึกขึ้นได้ วินยิ้มให้กล้อง
" อะไรทำให้คุณสองคนตัดสินใจมาอยู่ตรงนี้ " ถึงจุดนี้ วินหยุดคิด แต่พอพยายามคิดไปสักพัก เขารู้สึกง่วงนอน มันเช้าเกินไปสำหรับเหตุผล
" เพราะว่า ผมต้องการที่สงบๆ ที่จะใช้เขียนหนังสือ มันเป็นเหมือนแค่บ้านพักตากอากาศหน่ะครับ ผมคงไม่อยู่ที่นี่ไปตลอด " วินอธิบาย  คำว่า "บ้านพัก ตาก อากาศ" ทำให้เขาอยากจะปล่อยมุขออกมาเพื่อให้คนดูขำ แต่วินตัดสินใจไม่พูดอะไรต่อ 
" คุณเป็นนักเขียนหรือครับ แสดงว่าคุณมีผลงานเขียนที่กำลังจะออกมาเร็วๆนี้ ผมไม่เคยได้ยินชื่อคุณเลย "
" ผมไม่ดังครับ นักเขียนโนเนม แต่..ถ้าพี่ช่วย ผมอาจจะดังได้ นี่ผมเขียนเสร็จแล้ว " วินทำท่าเหมือนจะลุกขึ้นไปหยิบต้นฉบับที่เขาเขียนเสร็จ แต่ชายคนนั้นยกมือขึ้นมาห้ามวิน หน้าตาของเขาสื่อสารว่า นั้งเถอะ เราไม่สนใจหนังสือของคุณ
" ลองเปลี่ยนเรื่องดีกว่านะครับ คุณสร้างทั้งหมดนี้เองเลยหรือ " ชายคนนั้นกวาดสายตาไปรอบๆ " หรือว่าคุณจ้างคนมาทำให้ มันดูดีมากๆ "
" ผมออกแบบและก็มีส่วนร่วมในการสร้างครับ ไม่มีใครสร้างบ้านด้วยตัวคนเดียวได้ และไม่ควรทำอย่างยิ่ง " ถึงจุดนี้ ชายคนนั้นทำสายตาเหมือนไม่เชื่อถือ เขาเพ่งเล็งไปที่หนวดและเคราที่วินไว้มาตั้งแต่เริ่มตกงานเมื่อสามเดือนก่อน อันที่จริงเขาไม่ได้อยากจะไว้ เพียงแต่ที่บ้านตอนนี้ไม่มีกระจก และเขายังไม่ได้มีโอกาสไปซื้อใบมีดโกน
" โอเคครับ เราเชื่อคุณ ว่าแต่คุณช่วยแนะนำแฟนสาวของคุณหน่อยสิครับ " ชายคนนั้นพูดถึงเซียร่า วินหันไปหาเธอ แต่เธอกำลังง่วนอยู่กับการเอากิ่งไม้แห้งสองอันมาต่อกัน พอเซียร่ารู้ตัว เธอแนะนำตนสั้นๆ แล้วก้มหน้าลงไปตามเดิม
" โอเคครับ เออ.. " ชายคนนั้นเหลือบสายตาไปมองที่ชายอีกคนที่เดินวนไปวนมาอยู่รอบบ้าน พอทั้งสองคนสบตากัน ชายที่อยู่นอกบ้านทำสัญญาณมือโอเค " ผมถามเรื่องส่วนตัวของคุณต่อก็ได้ คุณมีงานอย่างอื่นทำอีกไหมครับ นอกจากการเป็นนักเขียนอิสระ
" ตอนนี้ยังไม่มีครับ มีแต่งานอดิเรก "
" เช่นอะไรบ้าง ทำสวน ต่อเติมบ้าน อะไรพวกนี้หรือ "
" แฟนผมจะถนัดทำสวนมากกว่าผมเพราะเธอจะรู้เรื่องเกี่ยวกับดอกไม้ไรพวกนี้ ส่วนผม.. "
" กองหนังสือที่วางอยู่เรียงรายนี่... "
" ใช่ครับ ผมชอบอ่านหนังสือ และถ้าเป็นเมื่อก่อนก็ ถ่ายรูปด้วย "
อืมม " ชายคนนั้นตอบรับแต่เขาไม่ได้สนใจวิน เขากำลังหงุดหงิดอยู่กับเหล่าแมลงที่มาบินวนไปวนมาแถวๆศรีษะของเขา
" เราออกไปสัมภาษณ์ข้างนอกต่อ ดีไหม " ชายคนนั้นเสนอ วินไม่ขัดข้อง 

บ่ายวันนั้นพอทุกคนกลับไป วินบอกกับเซียร่าว่าถึงเวลาที่ควรไปทำความรู้จักกับคนแถวๆนี้ เซียร่าบอกว่าเธอมีดอกทานตะวันบานอยู่เยอะพอที่จะเอาไปแจกคนได้ วินเห็นด้วยและอาสาช่วยตัด พอได้จำนวนที่ต้องการ ทั้งสองคนขึ้นรถแล้วขับออกไป 
ใช้เวลาประมาณยี่สิบนาที บรรยากาศรอบๆเปลี่ยนจากชนบทที่มีแต่ทุ่งหญ้าและป่ามาเป็นชุมชนเล็กๆที่เต็มไปด้วยต้นไม้และบ้านหลังเล็กๆปนอยู่ประปราย ทั้งสองจอดรถตรงทางเท้าและตัดสินใจลงเดิน ด้านหน้าไกลๆมองเห็นเป็นพื้นถนนทอดยาวโค้งเข้าไปเป็นรูปตัวแอล ระหว่างกลางมีสะพานหินเล็กๆขั้นอยู่ก่อนที่จะถึงมุมโค้ง ทั้งสองคนค่อยๆเดินไปตามทางที่เต็มไปด้วยเงาต้นไม้และแสงแดดอ่อนๆ เสียงรถยนต์วิ่งผ่านดังสลับกันกับเสียงนกร้องที่ไม่รู้ว่ามาจากที่ใด เสียงหัวเราะของเด็กดังมาจากไกลๆสลับกันกับเสียงปิดประตูของใครบางคน
วินแต่งตัวในชุดปกติของเขา เสื้อเชิตลายสก็อตสีขาวที่ได้มาจากร้านมือสอง กางเกงสกินนี่ยีนส์สีฟ้าอ่อนของลีวายที่เขาใส่มาได้ประมาณสี่ปีกว่า เขาจำรอยเปื้อนและรอยถลอกของมันได้ทุกแห่ง วันนี้วินสะพายกระเป๋าผ้าใบสีน้ำตาลที่เขาจะสะพายประจำเวลาออกไปข้างนอก เมื่อสองอาทิตย์ก่อน เขาได้มีโอกาสลองเคลือบขี้ผึ้งมันด้วยตัวเอง มันกันน้ำได้ถ้าทำแบบนั้น คนขายกระเป๋าเคยบอกเขามา
ส่วนเซียร่าสวมหมวกฟาง เธอใส่เสื้อยืดสีขาวและกระโปรงผ้าชีฟองลายดอกไม้สีอ่อน ที่หลังของเธอสะพายตะกร้าสานที่เธอใส่ดอกทานตะวันเอาไว้จนเต็ม ที่บ่าของเธอสะพายกระเป๋าถือสีดำ วินสังเกตุเห็นกิ่งไม้สองอันที่เธอเอามาด้วย โผล่เลยออกมาจากในกระเป๋า เธอไปเอามันมาจากไหนวะ เขานึกในใจ

" นี่เราจะเดินไปถึงไหนอะ บ้านแถวนี้มีเยอะมาก และดูเหมือนคนแถวนี้ไม่ได้รู้จักพวกเราด้วยซ้ำ " เซียร่าพูดขึ้น
" ตอนแรกฉันนึกว่ามันจะเป็นชนบทๆเหมือนในหนังอะ ที่จะเป็นบ้านในฟาร์มและมีคนแก่และเด็กๆอาศัยอยู่ และเราก็จะเดินไปทักทายอรุณสวัสดิ์กับพวกเขา แล้วเขาก็จะเชิญเราไปเก็บลูกเชอร์รี่ และเลี้ยงนมสดคนละแก้ว อะไรประมาณนั้น "
" แกอ่านนิยายมากไปว่ะ
" แต่รู้สึกว่าคนแถวนี้เจริญมากเลย ถึงจะออกมาจากตัวเมืองขนาดนี้ แต่ผู้คนแถวนี้ก็ยังดูสะดวกสบาย ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าขับรถออกมาอีกแค่นิดเดียวก็เป็นย่านที่อยู่อาศัย "
" มีอะไรอีกที่แกไม่รู้ "
" ฉันไม่รู้ว่า.. "
" เห้ย แก ดูนั้นดิ " เซียร่าชี้ไปที่แมวสีดำกำลังข้ามถนน แมวลังเล แต่สุดท้ายตัดสินใจเดินข้ามมาจนถึงอีกฟาก แล้วมุดหายเข้าไปใต้ท้องรถยนต์ที่จอดอยู่ เซียร่ารีบวิ่งไปก้มมองใต้ท้องรถ เพื่อจะพบว่ามันไม่อยู่แล้ว แต่เธอเจอมันอีกทีตอนเงยหน้าขึ้นมา มันได้เดินอ้อมมาอยู่ข้างหลังเธอ เซียร่าหันไปนั้งยองๆ แล้วเอานิ้วเขี่ยไปที่แก้มของมัน
" แมวน้อย " เธอเขี่ยแล้วลูบหลังเบาๆ
" เธอพูดกับแมวรู้เรื่องเหรอ "
" รู้ดิ แกชื่ออะไร ห๊ะ " เซียร่าถามแต่แมวไม่ตอบ ไม่แม้แต่จะร้องเหมียว ตรงกันข้าม มันเงยหน้ามองมาที่วิน แล้วจ้องมาที่เขาด้วยแววตาที่อาลัยอาวร ด้วยแววตาที่แสนเศร้า เหมียว มันร้องแล้วเดินมาเขี่ยที่ขาของวิน แมวเขี่ยขากางเกงแล้วพยายามจะกัด เซียร่ารีบเดินมาอุ้มมันออกไป
" แกซนจังห๊ะ ซนจริงๆ " เธออุ้มแมวขึ้นมาเผยให้เห็นท้องเนียนๆของมัน แต่แมวยังไม่ลดละ มันพยายามตะกายเพื่อจะไปหาวิน แล้วร้องออกมาอย่างสุดเสียง
" เรารีบไปดีกว่าว่ะ เดี๋ยวเจ้าของมา " วินพูดแล้วเดินจากไป เซียร่าอุ้มมันเข้าไปอยู่ใต้ท้องรถเหมือนเดิม แล้วรีบเดินตามไป

   ทั้งสองคนลงเอยแจกดอกทานตะวันทั้งหมดให้กับเด็กและพ่อแม่ที่อยู่ในสวนสาธารณะใกล้ๆ พอเดินต่อมาได้ซักพัก พวกเขาเดินมาเจอสวนที่ทำเอาไว้ให้เป็นที่สำหรับเดินออกกำลังกายและเป็นที่ปิกนิคสำหรับครอบครัว พอแจกหมด วินพาเซียร่าเดินมานั้งบนเก้าอี้ไม้เพื่อพักเหนื่อย เขาเปิดกระเป๋าและหยิบเอาน้ำขึ้นมาดื่ม เขายื่นไปให้เธอ เซียร่ารับแล้วยกขึ้นดื่ม แล้วยื่นกลับมา วินปิดฝาแล้วเก็บมันกลับเข้ากระเป๋าตามเดิม 

หลังจากนั้นทั้งสองคนไม่ได้พูดอะไรกันอีกเป็นเวลาชั่วครู่ใหญ่ วินกำลังนั้งคิดถึงอนาคตข้างหน้าในอีกไม่กี่วันต่อจากนี้ เขาอาจจะต้องกลับไปอยู่ในเมืองแล้วไปหางานทำอีกครั้ง เซียร่ากำลังคิดถึงหลายสิ่งในเวลาเดียวกัน ตอนแรกเธอคิดถึงเพื่อนที่เธอไม่ได้คุยและเจอมาเป็นเวลาสองเดือน แต่ห้าวินาทีต่อมาเธอคิดถึงแมวสีดำตัวนั้น และอีกสิบวินาทีต่อมาเธอคิดถึงวิน เธอจินตนาการถึงสิ่งที่วินกำลังคิดอยู่ แต่เธอไม่มีความสามารถเพียงพอที่จะคาดเดาชายคนนี้ได้ สุดท้ายเธอหยุดคิด แล้วปล่อยใจไปกับท้องฟ้าสีคราม

   อีกหนึ่งอาทิตย์ต่อมา วินได้รับโทรศัพท์จากกองบรรณาธิการทั้งสี่แห่งที่เขาส่งต้นฉบับไป ทั้งสี่ที่ต่างตอบปฎิเสธกลับมาด้วยถ้อยคำที่เป็นแบบฉบับของตัวเอง บ้างบ่งบอกถึงความสนใจในงานของเขาแต่ขอแสดงความเสียใจที่รับไว้ไม่ได้ บ้างด้วยถ้อยคำที่เป็นทางการและตรงไปตรงมา บ้างในมุมมองที่เป็นกันเองและสนับสนุนให้วินพยายามต่อไป แต่ไม่ว่าจะในรูปแบบไหน สิ่งที่ทุกคนบอกตรงกันคือ " ขอแสดงความเสียใจ " แต่วินไม่ได้เสียใจ เขาแค่ไม่ได้ดีใจ เขาจะเสียใจมากกว่าที่ไม่ได้ลงมือทำมัน 

วินปิดสมุด ปิดคอมพิวเตอร์ แล้วเปิดหน้าต่างจนสุด ลมเย็นพัดเข้ามาปะทะที่หน้าของเขาเหมือนกับว่ามันรอให้เขาเปิดหน้าต่างซะที วินลุกขึ้นยืน สูดหายใจลึกๆเข้าปอดแล้วปล่อยมันออกมา เขาแอบมองเงาของตัวเองในกระจกหน้าต่างเผยให้เห็นชายที่มีแต่หนวดเครารกรุงรัง วินเดินไปที่อ่างล้างจาน หยิบมีดโกนที่พึ่งฝากเซียร่าซื้อออกมา เทน้ำใส่แก้ว ถูสบู่แรงๆให้มันเป็นฟองแล้วเอามาฟอกไปตามคางของเขา วินบรรจงโกนโดยใช้เงาสะท้อนจากอ่างล้างจาน เขาพึ่งจะเข้าใจ มันไม่ได้อยู่ในป่าและไม่ได้อยู่ในเมือง สิ่งสิ่งนั้นที่เขาตามหามาตลอด มันซ่อนอยู่ในเครา

No comments:

Post a Comment