ถ้าจะสร้างบ้าน สิ่งแรกที่วินนึกถึงคือที่ดิน และถ้าจะหาที่ดิน คนแรกที่วินนึกถึงคือแม่ของเขา ซึ่งวินรู้ว่าเธอคลุกคลีอยู่กับการซื้อขายที่ดินมาตลอดเวลา20ปี ทันทีที่เซียร่าเข้าไปทำอาหารเช้าในห้องครัว วินหมุนเบอร์โทรศัพท์ พอผ่านไปสองกริ๊ง มีผู้หญิงรับสาย ตอนแรกวินนึกว่าเป็นแม่ แต่พอคุยไปได้นิดหน่อย เขาถึงรู้ว่าเธอเป็นน้าสาวที่ย้ายมาอยู่ที่บ้านได้หนึ่งเดือนแล้ว เธอบอกว่าตอนนี้แม่ของเขาไม่อยู่และจะกลับมาในตอนเย็น วินขอบคุณแล้ววางสาย
ในช่วงที่ต้องรอให้ถึงตอนเย็น เขาขับรถไปที่โรงรับจำนำแถวบ้านเพื่อเอากล้องถ่ายรูปไปจำนำ งานอดิเรกอีกอย่างนึงที่เขาจำใจต้องละทิ้งมันไปชั่วคราว หลังจากได้เงินมา วินแวะเข้าไปในร้านขายของเก่า เขาเดินวนอยู่สักพักถึงตัดสินใจซื้อเครื่องพิมพ์ดีดอันที่ถูกที่สุดมา หลังจากที่ทดสอบดูดีแล้วว่าตัวอักษรกดแล้วไม่ค้างและยังมีหมึกติดอยู่บนกระดาษชัดเจนทุกตัว เขาหอบมันกลับมาที่บ้าน แล้วตั้งมันไว้บนเก้าอี้ไม้ที่ครั้งนึงเคยเป็นที่ตั้งแจกัน แล้วเอาผ้าม่านที่ไม่ได้ใช้มาคลุมปิดด้านบน
เซียร่าไม่ได้อยู่บ้าน อันที่จริง เธอหาเรื่องเพื่อที่จะออกไปข้างนอกคนเดียว วินรู้ว่าเธอกำลังปิดบังอะไรบางอย่างจากเขา และเขาแน่ใจว่ามันต้องเป็นสาเหตุมาจากการที่เขาอยากจะออกไปสร้างบ้านอยู่เอง เขาไม่โทษเซียร่าที่เธอโมโห เขาจะรู้สึกแปลกมากกว่าถ้าเธอไม่โมโหและเห็นด้วยกับทุกสิ่งที่เขาทำ
อีกเหตุผลนึงที่เขาอยากกลับไปหาแม่ก็เพื่อไปเยี่ยมห้องทำงานของพ่ออีกครั้ง ด้วยเหตุผลบางอย่างที่เขาไม่แน่ใจว่าเพราะอะไร หลังจากที่กลับมาจากร้านหนังสือ วินพบตัวเองคิดถึงพ่อมากขึ้นๆ มากจนขนาดที่ตัวเขาเองรู้สึก ว่าความทรงจำต่างๆที่เขาเคยมีร่วมกับพ่อ มันชัดเจนเกินกว่าจะเป็นอดีต อันที่จริง เขาคิดว่ามันเป็นปัจจุบันที่เกิดขึ้นนานมาแล้ว วินหัวเราะ ความแตกต่างระหว่างคำว่า "อดีต" กับ "ปัจจุบัน" ต่างกันแค่ความรู้สึกของเวลา ถ้านานมากๆ คนเรียกว่าอดีต ถ้าไม่นาน คนเรียกปัจจุบัน แต่ทุกอย่างคือปัจจุบันสำหรับเขา แม้แต่อนาคตก็คือปัจจุบันที่ยังมาไม่ถึง มันน่าจะเป็นอย่างนั้น วินคิดกับตัวเอง เขารู้สึกเหมือนว่าเขาพึ่งเข้าใจสัจธรรมอะไรบางอย่าง เขาอยากจะจดมันลงสมุดแต่มันอยู่บนโต๊ะและเขาขี้เกียจเดินไปหยิบมา
แต่วินไม่รู้ตัว ความคิดแบบนี้ของเขาเกิดขึ้นจากอิทธิพลของหนังสือธรรมะ ที่พ่อของเขาเอาให้อ่านเมื่อสมัยยังเป็นเด็ก ประโยคนึงที่ติดอยู่ในหัวเขามาตลอดคือประโยคที่บอกว่า "ชีวิตคือการอยู่กับปัจจุบัน" แต่ตอนนั้นวินอ่านคำว่า "อยู่" ในภาษาไทยไม่ออก เขาเลยอ่านมันว่า "ชีวิตคือการกับปัจจุบัน" ซึ่งทำให้ความหมายเปลี่ยนไปจากที่มันควรจะเป็น เพราะประโยคแรกหมายถึง เรามีสามตัวเลือก อดีต ปัจจุบัน อนาคต เราควรเลือกที่จะอยู่กับปัจจุบัน แต่ประโยคที่สองหมายความว่า ตัวเลือกมีอย่างเดียว เราเลือกไม่ได้และไม่จำเป็นต้องเลือก ชีวิตคือปัจจุบัน ปัจจุบัน ปัจจุบัน
วินเลิกคิด เขามองดูนาฬิกาเพื่อเช็คว่าเวลายังพอมี เขาเปิดตู้เย็นแล้วเอานมออกมารินใส่แก้ว ยืนอยู่นิ่งๆคนเดียวในห้องครัว วินมองไปรอบๆห้องของตัวเอง ของต่างๆที่เขามีและควรจะขาย เขาได้ขายไปหมดแล้ว และของต่างๆที่เขาอยากเอาไปด้วยและเอาไปด้วยได้ เขาก็ได้เก็บมันใส่ลงไปในกล่องหมดแล้ว เหลือเพียงแต่ของใช้ส่วนตัวของเซียร่าและของใช้ส่วนรวมที่ยังคงต้องใช้จนกว่าจะถึงวันสุดท้าย วินอยากจะหาที่ดินให้ได้อย่างเร็วที่สุด เพราะการสร้างบ้านต้องใช้เวลา ถึงเขาจะไม่เคยสร้างบ้านมาก่อน แต่เขาเคยมีประสบการ์ณเป็นผู้ช่วยช่างไม้ให้กับบริษัทรับเหมาแห่งนึง ซึ่งเขารู้ว่ามันไม่ใช่งานที่จะทำได้ด้วยตัวคนเดียว และที่สำคัญมันต้องใช้อุปกรณ์ต่างๆมากมาย ซึ่งเขาไม่มี
ยิ่งวินคิด เขายิ่งรู้สึก ว่าสิ่งที่เขากำลังจะทำช่างเป็นภารกิจที่ยิ่งใหญ่ แต่เขาไม่ได้คิดว่ามันยาก แค่ยิ่งใหญ่ และเขาจะทำทุกวิถีทางเพื่อให้มันสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี วินนั้งลงตรงโต๊ะเขียนหนังสือแล้วบรรจงเขียนสิ่งที่เขาต้องทำ เรียงลำดับความสำคัญจากก่อนไปหลัง ปกติเขาไม่ใช่คนที่วางแผนล่วงหน้า ตรงกันข้าม เขาไม่ชอบที่จะวางแผนการอะไรเลย นอกเสียจากว่ามันจะมีความรู้สึกบางอย่าง บอกเขาว่าเขาควรจะทำมัน ตอนสี่โมงเย็น วินขับรถไปหาแม่ของเขาที่บ้าน
ยิ่งวินคิด เขายิ่งรู้สึก ว่าสิ่งที่เขากำลังจะทำช่างเป็นภารกิจที่ยิ่งใหญ่ แต่เขาไม่ได้คิดว่ามันยาก แค่ยิ่งใหญ่ และเขาจะทำทุกวิถีทางเพื่อให้มันสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี วินนั้งลงตรงโต๊ะเขียนหนังสือแล้วบรรจงเขียนสิ่งที่เขาต้องทำ เรียงลำดับความสำคัญจากก่อนไปหลัง ปกติเขาไม่ใช่คนที่วางแผนล่วงหน้า ตรงกันข้าม เขาไม่ชอบที่จะวางแผนการอะไรเลย นอกเสียจากว่ามันจะมีความรู้สึกบางอย่าง บอกเขาว่าเขาควรจะทำมัน ตอนสี่โมงเย็น วินขับรถไปหาแม่ของเขาที่บ้าน
" ลมอะไรหอบมา " คุณนายทิพยสุนทรนั้งลงตรงเก้าอี้ เธอผอมลงไปมากจนวินตกใจ เธอแต่งกายในชุดเสื้อผ้าลินินสีม่วงสวมทับด้วยแจ็กเก็ตหนังสีน้ำตาล ที่คอของเธอมีสร้อยร้อยเปลือกหอยและที่หูของเธอมีต่างหูไข่มุกสีขาว วินอยากจะถามว่าเธอพึ่งไปไหนมาแต่ตัดสินใจไม่ถามแล้วเข้าเรื่อง
" แม่ ผมอยากจะซื้อที่สักนิดหน่อย " วินพูดพร้อมกับสบตา
" มีงบแค่ไหน "
" หนึ่งพันเหรียญ หรือมากกว่านั้น " วินตอบ เขารู้สึกคอแห้ง
" อืมม " คุณนายลุกขึ้นจากเก้าอี้ เธอเดินไปที่ห้องครัวแล้วเปิดตู้เพื่อหยิบเอาชาออกมา เธอเอาน้ำใส่กาแล้วเปิดเตาแก๊สเพื่อต้มน้ำ มันมีบางอย่างพิเศษในท่วงท่าที่เธอเดิน วินรู้สึก เวลาเขามองแม่ของเขาเดิน มันเหมือนกับว่าเวลาช้าลง มันเหมือนกับว่าเธอบังคับเวลาได้ ซักพักแม่ของเขาถามต่อในขณะที่กำลังรินน้ำ
" แกมาเพื่อที่จะขอยืมเงินใช่มั้ย " เธอถามแบบไม่มอง
" ครั้งนี้ไม่ใช่ครับ ผมมาเพื่อจะปรึกษา ผมได้ยินมาว่า ถ้าเกิดเราซื้อที่ๆไม่มีใครอยากได้ มันจะราคาถูกมาก ผมไม่ต้องการสิ่งอำนวยความสะดวกอะไรทั้งนั้น ผมแค่ต้องการที่ "
" แกหมายถึงที่รกร้างน่ะหรอ นอกจากที่ในป่าหรือบนเขา แม่นึกไม่ออกว่าที่แบบนั้นมันมีอยู่จริง "
" ที่ในป่า ? "
" ในรัฐวอลชิงตัน ที่รกร้างส่วนใหญ่จะอยู่ในการครอบครองของรัฐหรือไม่ก็ของกรมป่าไม้ ยกเว้นเสียแต่.. "
" ยกเว้นเสียแต่.. " วินย้ำ
" ยกเว้นเสียแต่แกจะโชคดีจริงๆ หรือไม่ก็รู้จักคนที่เขามีที่เหลือและต้องการจะแบ่งขาย แต่ถึงอย่างนั้น มันก็จะเป็นที่ๆมีขนาดเล็กและห่างไกลจากความเจริญ แม่คิดว่ามันไม่มีแม้ไฟฟ้าหรือน้ำประปา ถนนหนทางที่จะเข้าก็ต้องฝ่าเข้าไป "
" ผมคิดเอาไว้แล้ว "
" แล้วทำไมอยู่ดีๆถึงอยากซื้อที่ "
" ผม.. " วินนึกคำพูด เขาอยากจะบอกแม่ว่าเขาเองก็ไม่รู้แน่ชัด แต่วินคิดว่าควรจะหาเหตุผลที่ฟังขึ้นมากกว่านั้น " ผมอยากสร้างบ้านอยู่เอง "
" สร้างบ้าน ? ด้วยงบแค่พันกว่าเหรียญ แกต้องคิดให้รอบคอบกว่านั้น แม่ว่า "
" อันที่จริง ผมคิดเอาไว้แล้วครับ ผมจะใช้เงินนั้นซื้อที่ พอซื้อได้ ผมจะหาทางเพื่อให้ได้เงินมาอีกก้อนเพื่อจะมาสร้างบ้าน "
" คำว่า "หาทาง" ฟังดูเสี่ยง "
" ผมอยากให้แม่ช่วย ลองหาที่ให้หน่อย แค่นั้นที่ผมมาหาในวันนี้ ถ้าแม่เจอแล้ว กรุณาโทรบอกผมด้วย ผมอยากได้ภายในหนึ่งอาทิตย์ถ้ามันไม่ลำบากแม่จนเกินไป "
" แน่นอน "
" ผมขอบคุณล่วงหน้า " วินขอบคุณแล้วบอกแม่ว่าเขามีธุระต้องรีบไปทำต่อ เธอพยายามให้วินอยู่กินข้าวเย็นด้วยกันแต่เขาปฎิเสธ
พอออกมาจากบ้าน วินโทรศัพท์ไปหาเซียร่าแต่เธอไม่รับสาย พอกลับมาที่รถ ชั่ววินาทีที่วินจะสตาร์ทเครื่อง เขานึกขึ้นได้ว่าเขาลืมทำอะไรบางอย่าง เขาลืมเข้าไปในห้องทำงานของพ่อ ตัดสินใจที่จะเข้าไปในบ้านอีกรอบ วินลงจากรถแล้วเดินไปเปิดประตูบ้าน เขาเดินผ่านห้องนั้งเล่นแล้วเดินขึ้นบันไดไปชั้นสอง ทันทีที่เลี้ยวขวา เขามาหยุดอยู่ตรงหน้าประตูห้องของพ่อ สูดหายใจลึกๆ วินหมุนลูกบิดประตู ทันทีที่เปิดเข้าไป เขาพบกับห้องทำงานสภาพเดียวกันกับที่เขาเห็นเมื่อเจ็ดปีก่อน ทุกอย่างถูกทำความสะอาดไว้อย่างดี ฝุ่นแทบจะไม่มีเกาะและอุปกรณ์ทุกชิ้นอยู่ในตำแหน่งที่มันควรจะอยู่ วินเอามือลูบไปตามโต๊ะ ชั้น และสิ่งของต่างๆ อยู่ดีๆเขารู้สึกเศร้า แต่มันเป็นความเศร้าที่เบาบางและไร้น้ำหนัก เหมือนกับละอองฝุ่นที่ลอยอยู่ในอากาศเวลาถูกเป่า วินเดินไปเริกผ้าม่านแล้วเปิดหน้าต่าง เขามองเห็นต้นเชอร์รี่บลอซซัมกำลังออกดอกสีขาวโพลนไปทั้งต้น
วินเดินไปที่ชั้นหนังสือที่อยู่ด้านหลังโต๊ะทำงาน เขาเลือกหนังสือที่เขาอยากได้ออกมาจากชั้น ทีละเล่ม ทีละเล่ม จนในที่สุดเขาหอบเอาหนังสือทั้งหมดกลับมาที่รถ วินขับรถออกไป ตอนแรกเขาอยากจะกลับไปที่ห้องเลยแต่วินรู้สึกว่ามีบางอย่างที่เขาต้องทำก่อน เขาแวะไปที่ร้านหนังสือมือมากัสอีกครั้ง เขาเข้าไปด้านในแล้วซื้อหนังสือทุกเล่มที่เขาหาเจอเกี่ยวกับประวัติของบ้านและองค์ประกอบของมัน เขารีบจ่ายตังค์แล้วขับรถกลับบ้าน พอวินเปิดประตูห้อง เขาพบเซียร่ากำลังนั้งนับเงินอยู่บนเตียง วินรู้สึกว่าเธอมีบางอย่างเปลี่ยนไป
วินเดินไปที่ชั้นหนังสือที่อยู่ด้านหลังโต๊ะทำงาน เขาเลือกหนังสือที่เขาอยากได้ออกมาจากชั้น ทีละเล่ม ทีละเล่ม จนในที่สุดเขาหอบเอาหนังสือทั้งหมดกลับมาที่รถ วินขับรถออกไป ตอนแรกเขาอยากจะกลับไปที่ห้องเลยแต่วินรู้สึกว่ามีบางอย่างที่เขาต้องทำก่อน เขาแวะไปที่ร้านหนังสือมือมากัสอีกครั้ง เขาเข้าไปด้านในแล้วซื้อหนังสือทุกเล่มที่เขาหาเจอเกี่ยวกับประวัติของบ้านและองค์ประกอบของมัน เขารีบจ่ายตังค์แล้วขับรถกลับบ้าน พอวินเปิดประตูห้อง เขาพบเซียร่ากำลังนั้งนับเงินอยู่บนเตียง วินรู้สึกว่าเธอมีบางอย่างเปลี่ยนไป
" เธอไปตัดผมมาเหรอ " เขาถามพร้อมกับสังเกตุทรงผมใหม่ของเธอ ปกติเซียร่าจะไว้ทรงอะไรก็ไม่รู้ที่หยิกๆฟูๆตามธรรมชาติ แต่เซียร่าที่เขาเห็นตรงหน้าคือเซียร่าที่ดูสะอาดสะอ้านผิดปกติ ผมที่เคยรกรุงรังของเธอถูกทำให้กลายเป็นทรงสั้นๆ ถึงมันจะดูเหมือนเธอไม่ได้ทำอะไรกับมันมาก แต่ใบหน้าของเธอแสดงให้เห็นถึงความมั่นใจที่เพิ่มขึ้น จริงๆเธอไม่ใช่คนสวย วินชอบคิดว่าเธอสวยแบบคนธรรมดา รูปร่างของเธอผอมแบบผอมธรรมชาติ เป็นความผอมที่ไม่ได้มาจากการอดอาหาร ผิวพรรณของเธอไม่ใช่ผิวของลูกผู้ดี มันทั้งแห้งสากและบอบบาง ทุกครั้งที่เขามีอะไรกับเธอ วินรู้สึกว่าเธอสามารถจะแตกเป็นชิ้นๆได้ถ้าหากเขาไม่ระมัดระวัง วินนั้งลงบนเตียงข้างๆเซียร่า เขารู้สึกว่าเธอมีอะไรจะบอก
" ฉันเอาของไปขายมา ได้เงินมาก้อนนึง " เซียร่าพูด วินใช้สายตานับแบงก์ร้อยที่อยู่ในมือของเธอ
" ทำไมต้องทำขนาดนั้น เรื่องหาเงินปล่อยให้เป็นหน้าที่ฉัน "
" มันไม่ใช่ "ฉัน" อีกต่อไป ตอนนี้มันเป็นเรื่องของ "เรา" " เธอพูด " ฉันมาคิดดูแล้ว ฉันจะลองทำตัวบ้ากับนายดูอีกสักครั้ง แต่ครั้งนี้อาจจะเป็นครั้งสุดท้าย ถ้าเรายังไม่มีอะไรดีขึ้น "
" ไม่ต้องห่วง " วินหันไปยิ้ม " การเปลี่ยนแปลงกำลังจะมา "
No comments:
Post a Comment