IV

ฟรี



บางแห่ง บางแห่งที่ไกลออกไป ในที่ๆไม่มีใครเคยเห็นมาก่อน ข้างในนั้นมีแสง ข้างในนั้นมีความเงียบ ข้างในนั้นมีเวลา ที่เดินไปเรื่อยๆตามอารมณ์ของมัน เวลาที่ไหลไปตามจังหวะของสายน้ำ ธารน้ำที่ไหลเอื่อย มันไม่เคยรีบ ไม่เคยรอ และไม่เคยสนใจใคร
ลึกเข้าไปด้านใน หมู่ต้นสนตั้งสูงตระหง่าน เรียงติดกันอย่างหนาแน่น ทุกครั้งที่จ้องมอง มันพาเราลึกเข้าไป ในความกลัวและความเล้นลับ แต่พอเรามองจากมุมสูง ต้นสนกลายเป็นการอยู่รวมตัวกันของสี ที่ต่างกันไปอย่างมีสมดุล ความหนาแน่นของต้นไม้ เปลี่ยนความแออัดให้กลายเป็นความผูกพันธ์ ที่ตัดยังไงก็ไม่ขาด โค่นยังไงก็ไม่ล้ม ทำไมสิ่งที่ดูรกๆ ถึงดูไม่สกปรก ? เหมือนกับเสียงของนกที่ร้องคล่อมจังหวะ ทำไมเสียงนกที่แย่งกันร้อง ถึงฟังดูโหวกแหวกแต่ไม่น่ารำคาญ
สายลมเคลื่อนที่ผ่านช่องว่าง ในที่แห่งนี้ บางครั้งลมจะพัดไปมาเหมือนกับซอ ที่สีได้แต่เพลงเศร้า บางครั้งลมจะพัดเหมือนกับแตร ที่นานๆทีจะเป่าเพื่อเตือนสติ แต่ส่วนใหญ่ลมจะพัดเหมือนกับลมหายใจ ที่ต่อเนื่องและเป็นธรรมชาติ จนบางครั้งเราลืมไป ว่ามันอยู่ตรงนั้น สิ่งทั้งหมดนี้เกิดขึ้นเฉพาะบางแห่ง บางแห่งที่ไกลออกไป ในที่ๆไม่มีใครเคยเห็น
      แต่ที่แห่งนี้ ที่แห่งนี้มีชายคนหนึ่งกำลังนั้งคิด เขาพึ่งได้รับโทรศัพท์จากวิน ชายคนนั้นนั้งไขว่ห้างสลับขาไปมา เขากำลังคิดถึงอะไรบางอย่าง ซักพักเขายกหูโทรศัพท์แล้วกดเบอร์ วินรับในกริ๊งแรก
" ผมลงทะเบียณชื่อให้คุณเรียบร้อยแล้วนะครับ ที่เป็นของคุณแล้วตอนนี้ " ชายคนนั้นพูด
  " ขอบคุณมากครับ " วินตอบ
  " ว่าแต่คุณจะสร้างบ้านอยู่ตรงนั้นจริงๆเหรอครับ "
   " ยังไม่รู้ว่าจะทำได้รึเปล่าเลยครับ "
  " อ่อ ผมก็ว่า "
  " ทุกอย่างเรียบร้อยแล้วใช่มั้ยครับ งั้นผมขอบคุณอีกที " วินพูดเสร็จแล้วรีบวางสาย เขาเป่าปากแล้วขีดฆ่าหัวข้อแรกที่เขาจดลงสมุด 

วินลุกขึ้นยืนแล้วเดินออกไปตรงระเบียง ข้างนอกฟ้าเริ่มครึ้มเหมือนฝนจะตก วินเดินกลับเข้ามาในห้องแล้วหอบตะกร้าผ้าลงมาด้านล่าง เขาเข้าไปในห้องซักผ้าที่อยู่ชั้นล่าง หยอดเหรียญ ใส่น้ำยา ปิดฝา และกดปุ่ม เครื่องสั่นและส่งเสียงดังออกมา 

วินนั้งลงตรงเก้าอี้ที่ดูเหมือนว่าไม่เคยมีใครใช้บริการมันมาก่อนเลยตั้งแต่มันตั้งอยู่ตรงนั้นมาหลายสิบปี เขานั้งลงแล้วบรรจงอ่านหนังสือ นี่เป็นเล่มที่สามที่วินอ่าน เล่มแรกเขาอ่านเกี่ยวกับประวัติที่อยู่อาศัยของคนยุคกลางในแถบยุโรป ช่วงหลังการล่มสลายของอาณาจักรโรมัน วินไม่ได้สนใจเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ สิ่งเดียวที่เขาอยากจะรู้ก็คือ ความรู้สึกที่คนเหล่านั้นมีต่อสิ่งที่พวกเขาเรียกมันว่า "บ้าน" เขาอยากจะรู้ว่าคนสมัยนั้นคิดยังไงกับที่อยู่อาศัยของพวกเขา
พออ่านเล่มแรกจบ วินอ่านเทคนิคการสร้างบ้านของช่างไม้ญี่ปุ่น หนังสือเล่มหนาที่เขายืมมาจากห้องทำงานของพ่อ พออ่านจบแล้วมันทำให้เขารู้สึก ว่าช่างไม้ญี่ปุ่นเป็นช่างที่เก่งที่สุดในโลก ไม่ใช่แค่ด้านเทคนิคการสร้างที่เน้นการเชื่อมต่อของเสาและคานด้วยการประกอบลิ่ม ซึ่งทำให้บ้านสร้างได้เร็ว แข็งแรง ทนทาน แต่มันยังทำให้ชิ้นส่วนต่างๆภายในบ้านสามารถถอดออกมาซ่อมแซม ต่อเติม และนำกลับมาใช้ใหม่ได้ รวมไปถึงการคำนึงถึงองค์ประกอบต่างๆปรีกย่อยมากมาย การวางรูปแบบของบ้านที่คำนึงถึงทิศทางของลมและทิศทางของแสงอาทิตย์ การสร้างพื้นระเบียงหน้าบ้านเพื่อเอาไว้เป็นที่พูดคุยสนทนากับคนแปลกหน้า การไม่ใช่เฟอร์นิเจอร์มากเกินความจำเป็น และการใช้พื้นที่เล็กๆให้เกิดประโยชน์สูงสุด 
ตอนนี้เขากำลังนั้งอ่านหนังสือเกี่ยวกับระบบวงจรต่างๆภายในบ้าน เล่มเดียวกันกับที่วิศวกรสร้างบ้านอ่าน พออ่านไปได้ซักพักวินรู้สึก ว่าเขาตัวคนเดียวไม่สามารถจะทำทุกอย่างได้ บ้านจำเป็นต้องมีไฟฟ้า น้ำ และระบบจัดการกับขยะและของเสีย เขาขาดทั้งกำลังกายและกำลังทรัพท์ บางทีเขาอาจจะไม่มีวันทำมันสำเร็จ
ซักพักวินได้ยินเสียงเม็ดฝนกระทบกับกระจกขนาดเล็กที่อยู่ด้านข้างของห้อง กระจกสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดเล็กสองอัน เริ่มมีหยดน้ำเกาะเปลี่ยนพื้นที่ไปมา วินปิดหนังสือแล้วเดินกลับขึ้นไปบนห้อง พอมาถึงโต๊ะ เขาฉีกกระดาษสมุดออกมาประมาณ20แผ่น เขาเอามันมาเรียงต่อกันบนพื้นห้องเป็นจิ๊กซอ พอได้รูปทรงที่เขาต้องการ เขาบรรจงวาดรูปพื้นที่ส่วนต่างๆของบ้านลงไป ให้ได้ลายระเอียดมากที่สุด พอผ่านไปสองชั่วโมง วินวาดเสร็จแล้วขึ้นไปยืนบนเตียงเพื่อดูผลงาน 
เซียร่าไม่อยู่ห้องอีกตามเคย แต่วันนี้เธอไม่อยู่แบบมีเหตุผล เธอกำลังไปติดต่อขอเช่ารถตู้และอุปกรณ์สร้างบ้านมาจากบริษัทรับเหมาใกล้ๆ พรุ่งนี้จะเป็นวันที่จะต้องไปเริ่มเตรียมพื้นที่  วินพยายามนึกถึงเพื่อนทั้งหมดที่เขามี แต่ถึงเขาจะเรียกคนเหล่านั้นว่าเพื่อน เขาไม่แน่ใจว่าคนเหล่านั้นเรียกเขาว่าเพื่อนหรือเปล่า วินซ่อนความกังวลเอาไว้ แล้วโทรหาเพื่อนทุกคนที่เขารู้จักเพื่อขอความช่วยเหลือ  วินยอมแพ้หลังจากคนที่สามตอบปฎิเสธ คิดอะไรไม่ออก วินหยิบร่มคันสีเขียวขี้ม้าที่วางพิงไว้ตรงชั้นวางรองเท้า แล้วกางเดินออกไปในสายฝน ทุกครั้งที่เขารู้สึกสับสนและต้องการหาทางออกให้กับอะไรบางอย่าง วินจะออกเดินไปเรื่อยๆ เขาไม่รู้ว่าควรจะไปไหน วินแค่รู้คร่าวๆว่าเขาไม่อยากอยู่ใกล้ๆบ้าน และไม่อยากออกไปไกลมากเกิน 
เขาเดินผ่านสายฝนที่จากตกหนักกลายมาเป็นตกปรอยๆ เขาเดินไปตามทางเท้า เดินหลบแมว กระโดดหลบแอ่งน้ำขังขนาดย่อม และข้ามฝากสลับไปมาเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศ อยู่ดีๆเขานึกถึงเหตุการณ์เมื่อสองปีก่อน ตอนที่เขารู้สึกสับสนมากๆแล้วขับรถออกไปเรื่อยๆตามทาง เขาถูกตำรวจเรียกให้หยุดเนื่องจากเปลี่ยนเลนแบบกระทันหัน พอตำรวจเข้ามาคุยกับเขา สิ่งแรกที่ชายคนนั้นถามคือสิ่งเดียวที่วินไม่รู้ เขาถามวินว่ากำลังจะไปไหน วินตอบไปว่าเขา " ไม่รู้ซึ่งมันทำให้ชายคนนั้นเกิดอาการโมโหและทำการตรวจค้นร่างกายของวินเป็นการใหญ่ ในช่วงเวลานั้น เขาจำใจต้องกลายเป็นผู้ต้องหาชั่วคราว เพียงเพราะว่าเขาไม่มีจุดมุ่งหมายแน่นอน คนที่ไม่รู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่ แสดงว่ากำลังทำอะไรที่ไม่ดีในสายตาของคนอื่น วินนึกในใจ แต่ชีวิตเขาก็สับสนเกือบจะตลอดเวลา แสดงว่าเขาเป็นคนไม่ดีจริงๆหรือ
   วินเดินมาเรื่อยๆจนมาถึงสนามเด็กเล่นที่ว่างเปล่าและชื้นแชะ ค่อยๆเดินไปนั้งบนชิงช้า เขาเอามือซ้ายที่ไม่ได้จับร่ม จับโซ่ห้อยชิงช้าแล้วเริ่มใช้เท้าดันให้มันแกว่ง ตูดวินเริ่มเปียกแต่เขายังทนได้ แกว่งไปได้ซักพัก วินเริ่มรู้สึกหนาว ในระหว่างที่กำลังนั้งเฉยๆ มีคนโทรศัพท์มาหา
" เธออยู่ไหนอะ " เซียร่าพูดขึ้น
" สนามเด็กเล่น " วินตอบ 
" ฉันไปเช่ารถตู้มาแล้ว และก็อุปกรณ์ต่างๆที่นายบอก "
" เยี่ยมไปเลย " วินตอบ
" ว่าแต่นายได้ที่ตรงนั้นแล้วใช่มั้ย เราโชคดีมากที่เจอมัน ต้องขอบคุณแม่นาย "
" ใช่ โชคดีมาก "
" แล้วเอาไงต่อดี "
" อาจจะต้องเริ่มทำกันแค่สองคน พรุ่งนี้ "
" ไม่เป็นไรหรอก " เซียร่าพูดแล้วหยุดเงียบไป 
" อื้อ เดี๋ยวเราจะกลับไปและ หิวข้าวมากเลย "
" อื้อ ฉันทำซุปมันฝรั่งกับสลัด ฉันหุงข้าวเอาไว้แล้วด้วย "
" เดี๋ยวเจอกัน " วินวางสาย พอรู้ตัวอีกที ฝนหยุดตก ท้องฟ้าค่อยๆกลับมาสว่างจ้าอีกครั้ง วินหุบร่มแล้วลุกขึ้นจะเดินออกไป เด็กน้อยที่หลบฝนอยู่ เดินออกมาเดาะลูกบอล วินยิ้มให้เด็กคนนั้นแล้วหันหลังเดินกลับบ้าน 

พอมาถึงหน้าทางเข้าอพาทเมนต์ วินสังเกตุเห็นจอบขนาดใหญ่วางอยู่ตรงฟุตบาท ถัดออกมาใกล้ๆ วินเห็นสิ่งของลักษณะคล้ายๆบัวรถน้ำตั้งอยู่คู่กันกับถังอะไรซักอย่าง วินเดินไปเพื่อสำรวจ มีกระดาษติดเอาไว้ว่าเป็นของที่ไม่ได้ใช้แล้ว อยู่ดีๆ เขารู้สึกอะไรบางอย่าง วินเดินออกไปตรงกลางถนน มีข้าวของเครื่องใช้ต่างๆมากมาย ทั้งตู้ โต๊ะ แผ่นเหล็ก เสื้อผ้า กระถางต้นไม้ ลวด สายไฟ ผ้าม่าน พัดลมเก่า เครื่องดูดฝุ่น และของอีกเยอะแยะที่เขายังไม่รู้ว่าคืออะไร กองระเนระนาดยาวออกไปตามทาง วินเดินไปเรื่อยๆจนมาหยุดอยู่ตรงรถยนต์ที่สตาร์ทเครื่องติดเอาไว้แต่ยังไม่ได้ขับไปไหน คนขับที่เห็นวินเดินเข้ามาใกล้เปิดกระจกแล้วชะโงกหน้าออกมา
" น้อง พี่เห็นรถขนของขนาดใหญ่พึ่งขับผ่านไปเมื่อกี้ สงสัยจะล็อคตู้ไม่แน่น ตลกจริงๆคนสมัยนี้ กว่าเขาจะรู้ตัวคงโดนไล่ออกจากงาน " ชายคนนั้นปิดกระจกแล้วขับรถออกไป วินหันหลังกลับไปดูข้าวของต่างๆอีกครั้ง คราวนี้ใต้แสงอาทิตย์สีทองที่สาดส่องลงมา เขากดโทรศัพท์บอกเซียร่า ว่าให้เอารถตู้ออกมาได้เลย

No comments:

Post a Comment